สมช. แจงสภา ชงตัดไฟประเทศเพื่อนบ้านอื่น หากกระทบความมั่นคง

‘กมธ.การปกครอง’ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงปมตัดไฟเมียนมา หลัง ‘กฟภ.’ ตัดแล้วเช้านี้ ด้าน ‘สมช.’ เผย เตรียมวางมาตรการท่าข้าม ป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ ขณะที่ กต.แจง ทำหนังสือถึงเมียนมาให้เตรียมการล่วงหน้าแล้ว ป้อง ไม่ให้กระทบประชาชน ด้าน ‘กฟภ.’ ยืนกรานต้องให้หน่วยงานรัฐที่กำกับดูแลสั่งการเท่านั้น บอกความมั่นคง ซับซ้อน-หลายมิติ จะให้ประเมินหน่วยงานเดียวไม่ได้ รับอาจถูกเมียนมาฟ้องดำเนินคดี

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นประธาน กมธ. วาระพิจารณาศึกษาการบริหารจัดการให้บริการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าข้ามพรมแดนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ​ (สมช.) และ กฟภ. เข้าชี้แจง

ตัวแทน สมช. ชี้แจงถึงผลการประชุม สมช.เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ผลการประชุมเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ประชุมมีมติตัดไฟที่ส่งไปยังประเทศเมียนมา เนื่องจากพื้นที่ 5 จุดตามที่ปรากฏเป็นข่าวคือ จ.กาญจนบุรี 1 จุด จ.เชียงราย 2 จุด และที่ อ.แม่สอด จ.ตาก อีก 2 จุด มีการใช้ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติและกระทบต่อความมั่นคง

อย่างไรก็ตาม ทาง สมช.ประเมินตลอด และได้เสนอเรื่องไปทาง สมช.หลายครั้งแล้ว ในการแสดงความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของธุรกิจผิดกฎหมายที่มีการดำเนินการในประเทศเพื่อนบ้านหรือบริเวณชายแดนเพื่อนบ้านว่าจะกระทบต่อความมั่นคง ฉะนั้น จึงมีคำสั่งให้งดจ่ายไฟฟ้าในช่วงเช้าที่ผ่านมา 5 จุด นอกจากนี้ มีการคุยเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงและสัญญาณคมนาคม ซึ่งมีการสั่งให้ระงับจ่ายให้เร็วที่สุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

ADVERTISMENT

ตัวแทน สมช.ชี้แจงอีกว่า สำหรับระยะถัดไปไม่ใช่แค่เมียนมา แต่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านอื่นอีกที่มีปัญหา ทาง สมช.ก็จะเร่งประมวลปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจ่ายไฟฟ้า หรือปัจจัยอื่นๆ ที่สนับสนุน ซึ่งเชื่อว่าถูกนำไปใช้กับอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้ ต้องมีการพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ภาพลักษณ์ของประเทศไทย รวมถึงผลกระทบทุกมิติ ซึ่งมาตรการนี้อาจจะรวมถึงการทบทวนกฎหมายและทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีความสอดคล้องกัน

ADVERTISMENT

นายกรวีร์ถามว่า ในที่ประชุม สมช.ได้พูดคุยกันหรือไม่ว่าในอนาคตจะทำอย่างไร เมื่อเรามีความกังวลและทราบว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ เราจะเร่งรัดกระบวนการตรงนี้ให้มีความรวดเร็วและกระชับขึ้นได้อย่างไรบ้าง ในพื้นที่ที่ตัดน้ำ ตัดไฟจะแก้ปัญหาเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติได้หมดเลยหรือไม่ หรือแค่ชั่วคราว นอกจากนี้ ผลกระทบที่ตามมาหลังจากที่ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติแล้ว แต่ยังมีโรงเรียน โรงพยาบาล หรือชาวบ้านที่ใช้ไฟที่กระทบอีกด้วย ทาง สมช.ประเมินเรื่องนี้ไว้อย่างไรบ้าง

ตัวแทน สมช.ชี้แจงว่า เราให้ความสำคัญกับเรื่องผลกระทบ ซึ่งมาตรการเฉพาะหน้า เราได้แจ้งให้ประชาชนผู้สุจริตที่ใช้ไฟฟ้าร่วมด้วย ให้มีการเตรียมความพร้อม แต่เราขออาศัยรัฐบาลเมียนมาให้ติดต่อและดูแลเรื่องนี้ ซึ่งมาตรการที่ตัดไฟเป็นขั้นแรก

นอกจากมาตรการตัดไฟ เชื้อเพลิง สัญญาณโทรคมนาคม เรายังได้ให้แนวทางในเรื่องของการเพิ่มความเข้มงวดทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งปัจจัยหรือการข้ามไปข้ามมาที่เป็นเรื่องเทาๆ ของท่าข้ามก็จะเข้มงวดมากขึ้น ส่วนที่มีการบอกว่าโยนกันไปโยนกันมา ตอนนี้ขอเรียนว่านโยบายของรัฐบาลมีความชัดเจนว่าเข้มข้นและดำเนินการต่อเนื่อง ส่วนทาง สมช.จะรับเป็นเจ้าภาพหลักในการประสานงานให้การดำเนินงานต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม

นายกรวีร์ถามว่า ผลกระทบกับประเทศเพื่อนบ้าน ชุมชนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย กระทรวงการต่างประเทศมองอย่างไร และมีข้อมูลสนับสนุนการทำงานของ สมช.ฝ่ายปกครองมีเพิ่มเติมหรือไม่

ตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า กระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือแจ้งไปที่รัฐบาลเมียนมาที่สถานทูตเมียนมาเกี่ยวกับมติเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องและเตรียมตัวล่วงหน้า รวมทั้งดูว่ารัฐบาลเมียนมามีท่าทีกับเรื่องนี้อย่างไร

ซึ่งรัฐบาลเมียนมาก็พร้อมให้ความร่วมมือ และอยากให้ประเทศไทยยกระดับเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งเชื่อว่าหลังจากที่ตัดไฟจะไม่กระทบกับความสัมพันธ์ โดยเราทำงานร่วมกับหน่วยความมั่นคง ลาว เมียนมา กัมพูชามาโดยตลอด เรื่องขอให้ความร่วมมือนั้น เราแจ้งตลอดไม่ใช่เพิ่งแจ้ง ท่าทีของเขาก็พร้อมให้ความร่วมมือ

ขณะที่ตัวแทน กฟภ.ชี้แจงว่า เราเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเราก็ดำเนินการการขายไฟฟ้าภายใต้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2539 โดยมีรูปแบบการดำเนินการเป็นแบบรัฐต่อรัฐ หรือผู้ที่ได้รับสัมปทานจากประเทศนั้นๆ ส่วนที่เมียนมา เดิมเรามีการขายไฟให้ทั้งหมด 8 จุด งดจ่ายไฟไปแล้ว 3 จุด โดยมี 2 จุดที่ อ.แม่สอด หมดสัมปทาน ทางรัฐบาลเมียนมาได้แจ้งเรื่องมา เราก็ดำเนินการตามที่หน่วยงานรัฐได้แจ้งเข้ามา ส่วนอีก 1 จุดคือที่ จ.เชียงราย มีการค้างจ่ายค่าไฟฟ้า

“ส่วนคำถามว่าทำไม กฟภ.ไม่ดำเนินการในกรอบของการดำเนินการซื้อขายไฟฟ้า ในข้อ 14 ที่เป็นประเด็นกระทบความมั่นคง ที่เป็นประเด็นคำถามในสังคม ว่าเราทราบดีอยู่แล้วว่ากระทบความมั่นคงแล้วทำไมไม่ดำเนินการ จริงๆ ในสัญญาทั้งหลายเหล่านี้ เป็นการเขียนไว้เพื่อให้รัฐสั่งการมายังหน่วยงาน เราต้องการให้หน่วยงานรัฐที่ดูแลเรื่องความมั่นคงสั่งการมายัง กฟภ.ให้ตัดไฟได้

ถ้าถามว่า กฟภ.ประเมินความมั่นคงในมิติไหนได้บ้าง ถ้าเป็นความมั่นคงพลังงาน เราสามารถประเมินความมั่นคงด้วยตัวเราเองได้ เราเข้าใจว่าความมั่นคงนั้นมีความซับซ้อน มีหลายมิติ หลายด้าน ซึ่งนอกเหนือขอบเขตที่ กฟภ.จะสามารถวิเคราะห์ได้เพียงหน่วยงานเดียวได้ เราจึงจำเป็นต้องถามไปยังหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ แต่เนื่องจากมีปัญหาในการตอบคำถามที่ยังไม่ชัดเจนนัก” ตัวแทน กฟภ.กล่าว

นายกรวีร์ถามว่า จุดอื่นๆ ที่มีการจำหน่ายไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจาก 5 จุดที่ถูกตัดไปแล้ว กฟภ.ได้มีการประเมินว่ามีจุดอื่นอีกหรือไม่ หรือหากได้รับแจ้งจะตัดไฟรวมถึงได้มีการประเมินว่าจะมีการฟ้องร้องในอนาคตหรือไม่

ตัวแทน กฟภ.ชี้แจงว่า นอกจากเมียนมายังมีประเทศลาวและกัมพูชาที่เราขายไฟให้ ซึ่งเราได้สอบถามไปว่ากระทบความมั่นคงของประเทศหรือไม่ หากได้รับแจ้งมาก็จะดำเนินการเหมือนประเทศเมียนมา อย่างไรก็ตาม มีการประเมินว่าจะเจอคู่สัญญาฟ้องร้องในแง่ธุรกิจ เพราะเวลาที่เราแจ้งไปยังประเทศเมียนมามีน้อยเกินไป ถือเป็นสิทธิของคู่สัญญา แต่ทาง กฟภ.เชื่อว่าจะนำสัญญานั้นมาชี้แจงได้

นอกจากนี้ กมธ.ยังสอบถามถึงอัตราการขายไฟไปยังประเทศกัมพูชาและลาว รวมถึงเมื่อตัดไฟไปแล้ว ขณะนี้เหลืออีกกี่จุด

ตัวแทน กฟภ.ชี้แจงว่า เราตัดไปแล้ว 5 จุด เหลือ 12 จุด คือประเทศกัมพูชา 8 จุด ประเทศลาว 4 จุด แต่ต้องยอมรับว่าลาวแทบไม่ได้ใช้ เขาใช้เฉพาะในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น มีเพียงประเทศกัมพูชาที่ใช้ ส่วนเรื่องราคานั้นคิดเป็นอัตราเดียวกับ อัตราผู้ใช้ไฟในประเทศไทยแต่ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มมีแต่ค่าชดเชยแทน ดำเนินการขายไฟฟ้าระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมนิติเศรษฐกิจชายแดนและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นหลัก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image