อิ๊งค์ ถก ‘สี จิ้นผิง’ จีนชื่นชมไทยตัดไฟ-เน็ตแก๊งคอล หารือ ‘หลี่เฉียง’ ก่อนร่วมเป็นสักขีพยาน 2 ปท.เซ็นเอ็มโอยู 14 ฉบับ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ East Hall มหาศาลาประชาชน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 5-8 กุมภาพันธ์
โดยนายกฯกล่าวว่า สวัสดีปีใหม่จีนและยินดีที่ได้มาเยือนจีนในปี 2568 ซึ่งเป็นปีที่พิเศษ ครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ไทย-จีน ปัจจุบันจีนถือเป็นหุ้นส่วนสำคัญทางเศรษฐกิจของไทย และเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 อีกทั้งจีนยังเข้ามาเป็นนักลงทุนอันดับต้นของไทยต่อเนื่องหลายปี มูลค่ากว่าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนให้เห็นว่าไทย-จีน มีมิติทางความสัมพันธ์เป็นพิเศษ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมส่งต่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันต่อไปอีก 50 ปีข้างหน้า เพื่อสานต่อความร่วมมือไปยังคนรุ่นต่อไป
ด้านนายสี จิ้นผิง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 50 ปี ไทย-จีนมีหลักการและวิสัยทัศน์ความร่วมมือแบ่งปันความเจริญรุ่งเรือง (shared prosperity) จีนยังสนับสนุนบทบาทไทยในทุกกรอบความร่วมมือ ทั้งระดับทวิภาคี พหุภาคีและภูมิภาค ที่ยังเห็นควรขยายความร่วมมือในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนารถไฟความเร็วสูง เศรษฐกิจดิจิทัล เขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) และการใช้ประโยชน์ความร่วมมือเศรษฐกิจ ไทย ลาว จีน อีกทั้งจีนยังส่งเสริมภาคเอกชนไทยในทุกมิติ ทั้งนี้ ประเทศจีนจะมีการจัดงาน China International Import Expo ถือเป็นงานสำคัญของการค้าขายระหว่างกัน ซึ่งจีนยังสนับสนุนสินค้าและบริการที่ดีของไทยมาที่ประเทศจีน ส่วนความร่วมมือในด้านยุทโธปกรณ์ทางทหารนั้น ไทย-จีนมีจุดเริ่มต้นจากโครงการเรือดำน้ำอีกด้วย
น.ส.แพทองธารกล่าวถึงความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทยว่า เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุด ซึ่งไทยพร้อมเดินหน้าความร่วมมือกับจีนในการสกัดกั้นกระบวนการอาชญากรรมที่เดินทางผ่านประเทศไทย และจะเตือนภัยผ่านกลไกความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ เป็นที่น่ายินดีที่ทั้งสองฝ่าย รวมถึงประเทศที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคได้ร่วมมือใกล้ชิดปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจังแล้วในปัจจุบัน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนสนับสนุนอย่างเข้มแข็งในการปราบปรามขบวนการหลอกลวงออนไลน์ การลักพาตัว การค้ามนุษย์ ถือเป็นการบั่นทอนผลประโยชน์ของประชาชนจีน เป้าหมายหลักของทั้งสองประเทศคือ การปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาจีนได้ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและท้องถิ่นสามารถปราบปรามยาเสพติดจนประสบความสำเร็จ อาชญากรรมข้ามชาติถือเป็นความท้าทาย มีความเสี่ยงสูง และชื่นชมรัฐบาลไทยที่พยายามอย่างเต็มที่และเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะการตัดไฟ อินเตอร์เน็ตและน้ำมัน ที่จะสามารถตัดวงจรกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรมต่างๆ ได้ และเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามจะดูแลความปลอดภัยและผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยการยกระดับการบังคับใช้กฎหมายทั้งในระดับทวิภาคีและอนุภูมิภาค
ต่อมาที่ North Hall มหาศาลาประชาชน น.ส.แพทองธาร และคณะเข้าหารือ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมทั้งร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงระหว่างหน่วยงานไทย-จีน โดยมี 1.การพัฒนาสู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระดับสูงผ่านวิสัยทัศน์การมองไปข้างหน้าและประชาชนเป็นศูนย์กลาง 2.การส่งเสริมความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ 3.การแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ 4.ความร่วมมือในการลงทุนด้านการพัฒนาสีเขียว 5.การส่งเสริมด้านการลงทุนในสาขาเศรษฐกิจดิจิทัล
6.การตรวจสอบ กักกันโรค และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ของผลิตภัณฑ์ประมงที่มาจากการเพาะเลี้ยงส่งออกมายังสาธารณรัฐประชาชนจีน 7.ความร่วมมือระบบเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว 8.ความตกลงระหว่างกรมศุลกากรไทยกับศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 9.ความร่วมมือด้านการส่งเสริมการจัดตั้งห้องปฏิบัติการร่วมด้านปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) 10.ความเข้าใจระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กับสำนักงานบริหารอวกาศแห่งชาติจีนเกี่ยวกับอุปกรณ์สำรวจสภาพอวกาศโดยรอบของดวงจันทร์ไทย-จีน
11.ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่าง อว.กับองค์การพลังงานปรมาณูแห่งชาติจีนว่าด้วยความร่วมมือด้านการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในทางสันติ 12.ความร่วมมือด้านบริการไปรษณีย์ 13.การแลกเปลี่ยนข่าวและข้อมูลข่าวสารระหว่างกรมประชาสัมพันธ์กับสำนักข่าวซินหัว และ 14.ร่างความเข้าใจระหว่างองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยกับ China Media Group
จากนั้น น.ส.แพทองธารเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ โดยมีนายกรัฐมนตรีจีนเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นแก่นายกฯและคณะ