คำสั่งคสช. ตั้งกก.สร้างความรู้-ความเข้าใจ พลังงานไฟฟ้าภาคใต้ ขรก.-ทหาร พรึบ!

ภาพกราฟิกลิขสิทธิ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔/๒๕๖๐ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็น เกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ มีรายละเอียดระบุว่า เพื่อให้การดําเนินการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ อันเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ ให้เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ จึงให้แต่งตั้งคณะกรรมการการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ ดังนี้
๑. องค์ประกอบ

๑) ผู้บัญชาการทหารบก/เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประธานกรรมการ ๒) พลเอก สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก/ รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รองประธานกรรมการ ๓) รองปลัดกระทรวงพลังงาน รองประธานกรรมการ ๔) รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รองประธานกรรมการ ๕) รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รองประธานกรรมการ ๖) อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรรมการ ๗) อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กรรมการ ๘) เลขาธิการสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ กรรมการ และสิ่งแวดล้อม ๙) ผู้อํานวยการสํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรรมการ ๑๐) ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรรมการ ๑๑) ผู้แทนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กรรมการ ๑๒) ผู้แทนกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท อสมท. จํากัด (มหาชน) กรรมการ ๑๓) ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ กรรมการ ๑๔) แม่ทัพภาคที่ ๔ กรรมการ ๑๕) พลโท ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองเสนาธิการทหารบก/ หัวหน้าส่วนอํานวยการ สํานักเลขาธิการ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ ๑๖) แม่ทัพน้อยที่ ๔ กรรมการและ ผู้ช่วยเลขานุการ ๑๗) ผู้แทนสํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน กรรมการและ ผู้ช่วยเลขานุการ

๒. อํานาจหน้าที่

๑) กําหนดกรอบแนวทางการสร้างความรู้ ความเข้าใจและรับทราบความคิดเห็น เกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ในภาพรวมโดยกําหนดให้มีการจัดกิจกรรมภายใน
๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐ ๒) อํานวยการ และประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในระดับนโยบายเพื่อให้ การสร้างความรู้ ความเข้าใจและรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ๓) เชิญผู้แทนส่วนราชการหรือหน่วยงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง ให้ข้อมูล หรือจัดส่งเอกสารที่จําเป็นแก่คณะกรรมการฯ สําหรับใช้ประกอบการพิจารณาตามความเหมาะสม ๔) รายงานผลการดําเนินการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นฯ รวมทั้งจัดทําข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาแก่รัฐบาล ภายใน ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐

Advertisement

๓. ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการดําเนินการของคณะกรรมการฯ ตามข้อ ๑ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สําหรับการเบิกจ่ายค่าเบี้ยประชุม และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการอื่น ๆ ที่จําเป็นเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทํางานที่แต่งตั้งขึ้น ภายใต้คําสั่งนี้ ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พุทธศักราช ๒๕๔๗ หรือตาม ระเบียบของทางราชการแล้วแต่กรณี โดยให้เบิกจ่ายจากต้นสังกัด ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ ๑๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

นอกจากนี้ ราชกิจจานุเบกษา ยังเผยแพร่ คําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕/๒๕๖๐ เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ มีรายละเอียดระบุว่า เพื่อให้การดําเนินการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม เป็นที่ยอมรับของประชาชน และภาคประชาสังคม จึงให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ ดังนี้

๑. องค์ประกอบ

๑) แม่ทัพน้อยที่ ๔ ประธานกรรมการ ๒) พลตรี พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ ๔ รองประธานกรรมการ ๓) ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กรรมการ ๔) ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กรรมการ
๕) ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กรรมการ๖) ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กรรมการ ๗) ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กรรมการ ๘) ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กรรมการ ๙) ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กรรมการ ๑๐) ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กรรมการ ๑๑) ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กรรมการ ๑๒) ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กรรมการ ๑๓) ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กรรมการ ๑๔) ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กรรมการ ๑๕) ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กรรมการ ๑๖) ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กรรมการ ๑๗) ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๕ กรรมการ ๑๘) ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ ๑๕ กรรมการ ๑๙) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๔๑ กรรมการ ๒๐) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๔๒ กรรมการ ๒๑) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๔๓ กรรมการ ๒๒) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๔๔ กรรมการ ๒๓) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๔๕ กรรมการ ๒๔) ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๔๖ กรรมการ ๒๕) ผู้แทนผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ กรรมการ ๒๖) ผู้แทนผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ กรรมการ ๒๗) ผู้แทนผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค ๘ กรรมการ ๒๘) ผู้แทนผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค ๙ กรรมการ ๒๙) เสนาธิการกองทัพภาคที่ ๔ กรรมการและเลขานุการ ๓๐) ผู้อํานวยการกองกิจการพลเรือนกองทัพภาคที่ ๔ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ๓๑) รองผู้อํานวยการกองกิจการพลเรือนกองทัพภาคที่ ๔ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

๒. อํานาจหน้าที่

๑) ดําเนินการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และบรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม

๒) ประสานงาน กํากับดูแล และเร่งรัดการดําเนินการของส่วนราชการ และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องภายในพื้นที่รับผิดชอบ ๓) รับผิดชอบงานการรักษาความสงบเรียบร้อย และกําหนดมาตรการการรักษา ความปลอดภัยที่จําเป็น สําหรับการดําเนินการ ตามข้อ ๑ ๔) จัดการประชุมหรือเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ หรือภาคเอกชนในพื้นที่รับผิดชอบมาให้ข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการเตรียมการ และดําเนินการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานไฟฟ้า ในพื้นที่ภาคใต้ ๕) รายงานผลการดําเนินการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นฯ ในระดับพื้นที่แก่คณะกรรมการการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับ สถานการณ์พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ ภายใน ๒๑ เมษายน ๒๕๖๐ ๖) มีอํานาจแต่งตั้งคณะทํางานฯ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามความเหมาะสม ๗) ปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการฯ มอบหมาย

๓. ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการดําเนินการของคณะอนุกรรมการฯ ตามข้อ ๑ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สําหรับการเบิกจ่ายค่าเบี้ยประชุม และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการอื่นๆ ที่จําเป็นเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะอนุกรรมการ และคณะทํางานที่แต่งตั้งขึ้นภายใต้คําสั่งนี้ ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พุทธศักราช ๒๕๔๗ หรือตามระเบียบของทาง ราชการแล้วแต่กรณี โดยให้เบิกจ่ายจากต้นสังกัด ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ ๑๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image