เลขาไทยก้าวหน้า ไขก๊อก รับไม่ได้ ส.ส.ปูอัด มีคดีข่มขืน ทั้งที่เคยให้โอกาส
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภูชิสส์ ศรีเจริญ เลขาธิการพรรคไทยก้าวหน้า พร้อมกรรมการบริการพรรคบางส่วน เข้ายื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยก้าวหน้าต่อ กกต. จากกรณีที่นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.พรรคไทยก้าวหน้า ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนกระทำชำเรานักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน โดยนายภูชิสส์กล่าวว่า วันนี้ตนขอลาออกจากเลขาธิการ สมาชิกพรรคไทยก้าวหน้า เหตุผลมีประการเดียวคือต้องรักษาจรรยาบรรณ และมารยาททางการเมือง โดยมีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่พรรคไทยก้าวหน้าได้รับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส. เข้ามาอยู่ในสังกัดพรรคเรา
ครั้งนั้นมีการแถลงว่าจะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก เพราะอย่างที่ทราบว่านายไชยามพวานได้ถูกขับออกจากพรรคก้าวไกล ตนในฐานะที่เป็นผู้บริหารของพรรคไทยก้าวหน้าก็ยอมรับว่าครั้งนั้นน่าจะมีการให้โอกาสและปรับปรุงตัวได้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนั้น ซึ่งเข้าใจว่าเกิดตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.2568 เป็นสิ่งที่สร้างความอับอายให้กับสังคมคือการกระทำชำเรานักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน การที่นายไชยามพวานไม่ลาออกนั้นตนเองอับอาย ส่วนจะถูกหรือผิดให้ไปใช้กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
นายภูชิสส์กล่าวว่า ตนในฐานะผู้สร้างสรรค์พรรคการเมืองก็อยากเห็นการเมืองมีการเปลี่ยนแปลง แม้เราจะเป็นพรรคเล็กๆ ก็มองว่าเราต้องรับผิดชอบนั่นคือจรรยาบรรณ มาตรฐานทางการเมืองที่ดี เพราะสักวันหนึ่งเยาวชนรุ่นหลังในฐานะที่ตนเป็นบุคลากรทางการศึกษาตนยึดหลักนี้มาตลอดว่าจะต้องดำรงรักษา แม้จะเป็นพรรคเล็กๆ เราก็อยากเป็นพรรคที่ดีของไทย วันนี้ตนต้องขอกราบอภัยประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ในนามเลขาธิการพรรคไทยก้าวหน้าขออนุญาตลาออกจากสมาชิกพรรค และเลขาธิการพรรค และขอขอบคุณที่ให้โอกาสเลือกตั้งครั้งที่แล้วได้คะแนนมา 35,000 คะแนน หวังว่าจุดเล็กๆ ที่ตนลาออกนี้จะเป็นกระแสให้สังคมได้รู้เรื่องการเมือง และพรรคอื่นๆ ว่าควรต้องทำอย่างไร ทั้งนี้เรามีจุดยืนที่ชัดเจนว่าการเมืองควรเป็นการเมืองที่ใสสะอาด อย่างไรก็ตามตนไม่ได้บอกว่าทางนายไชยามพวานผิด เพราะยังมีขั้นศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ แต่ตอนนี้สังคมตราหน้าว่าเราอุ้มเขา ดังนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบส่วนหนึ่งคือการลาออกเอง
เมื่อถามว่า นายไชยามพวานยังไม่ได้พิสูจน์ว่าผิดเราพรรคการเมืองควรให้โอกาสหรือไม่ นายภูชิสส์กล่าวว่า มองได้ 2 ทางในทางการเมืองทางกรรมการบริหารพรรคต้องมีมติพิจารณากัน แต่ในทางสังคมโดยเฉพาะเรื่องการคุกคามทางเพศนั้นมีกระแสค่อนข้างรุนแรง ยิ่งเป็นชาวต่างชาติแล้วตนเองเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งอีกอย่างตนเองมีลูกสาวตนก็กลัวเรื่องแบบนี้
เมื่อถามว่ามีการคุยกับกรรมการบริหารพรรคหรือยัง นายภูชิสส์กล่าวว่า พรรคจะมีการประชุม และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้วันที่ 20 ก.พ. นี้เป็นสิ่งที่ตนอึดอัดใจและรับไม่ได้ว่าทำไมต้องรอถึงวันที่ 20 ก.พ. แต่ตนเชื่อว่ากระแสนี้รอไม่ได้ เพราะจากการพูดของทีมงานของนายไชยามพวานระบุว่าจะมามอบตัวที่ สภ.เชียงใหม่ ซึ่งตนมองว่าเวลานานเกินไป เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้วจะปกปิดเพื่อไร จะถูกหรือผิดให้เป็นกระบวนการทางยุติธรรมต่อไป
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับนายไชยามพวานหรือไม่ นายภูชิสส์กล่าวว่า เขาไม่ยอมรับสาย ปิดเครื่องตลอด ไม่ยอมชี้แจง ตนเองก็อยากถามกลับไปว่าตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. ทำไมไม่บอกพวกเราบ้างว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เรารู้สึกว่าคนอยู่บ้านหลังเดียวกันทำไมไม่พูดไม่คุยกัน และเรื่องนี้เป็นเรื่องความรุนแรงมีผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศเราด้วย
เมื่อถามว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องการคุกคามทางเพศครั้งก่อนทำไมพรรคไทยก้าวหน้าถึงยอมรับนายไชยามพวานเป็นสมาชิกพรรค นายภูชิสส์กล่าวว่า เพราะคำว่าโอกาส ตนเชื่อว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ และนายไชยามพวานเคยแถลงว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก และมีการโค้งคำนับเป็นสิบๆ รอบ ตนเข้าใจว่าเขาเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่เรื่องจรรยาบรรณการเมืองก็สำคัญ
เมื่อถามว่าทางทีมงานนายไชยามพวานระบุว่าเป็นการสมยอม นายภูชิสส์กล่าวว่า ตนเองก็มีพรรคพวกเยอะก็พอรู้ข้อมูลว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็ไม่ได้ปรักปรำใคร ตอนนี้มีการตัดต่อคลิปว่าเป็นการสมยอม และที่เลยเถิดคือเรื่องตำรวจเรียกรับเงิน
เมื่อถามว่า การลาออกนี้ไม่ใช่ไม่พอใจบทบาทพรรคด้วยหรือไม่ นายภูชิสส์กล่าวว่า ไม่ หัวหน้าพรรคกับตนให้เกียรติกัน แต่แค่ตนรอไม่ได้ เพราะตนมองว่าขั้นตอนช้าไป ตนจะอยู่ตรงไหนอย่างไรไม่สำคัญ แต่เชื่อว่ากระแสครั้งนี้น่าจะจะเอาจริง ส่วนหัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้านั้นท่านก็เป็นผู้ใหญ่พอ จึงขอประชุมพรรคก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ แต่ทั้งนี้ยังมีสมาชิกอีกว่า 200 คนที่จะยื่นลาออกจากสมาชิกพรรคด้วย