อิ๊งค์ รูดซิปตอบสภาล่ม ด้าน ‘เอกนัฏ’ โต้ไม่ใช่เกมการเมือง แค่สมาชิกหวั่นขัดคำวินิจฉัยศาล ยัน รทสช. หนุนแก้หากกระบวนการถูกกฎหมาย ลั่นไม่งอแง หากเพื่อไทยทำตามจุดยืน
เมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “Sustainable Thailand – Advancing with Reforms” ในงานของหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (Joint Foreign Chambers of Commerce in Thailand: JFCCT) ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่ประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ล่มติดต่อกันเป็นวันที่สอง แต่นายกฯไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด โดยได้ขึ้นรถกลับทำเนียบรัฐบาลทันที
ด้าน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยต่างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์เหตุสภาล่ม ที่มองกันว่าเป็นเกมการเมืองและเป็นความขัดแย้งภายในพรรคร่วมมากกว่าความกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ไม่คิดไปไกล และคิดว่าเป็นความกังวลของสมาชิกแต่ละคนจริงๆ เพราะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเคยยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ โดยศาลมีคำวินิจฉัยว่าหากจะแก้มาตรา 256 นี้ต้องไปทำประชามติมาก่อน เมื่อประธานบรรจุเข้าสู่วาระหลายคนไปทำหน้าที่เซ็นเข้าร่วมประชุม แต่เห็นว่าวาระมีปัญหา หากไปร่วมพิจารณาจะเกิดปัญหาได้จึงไม่เข้าร่วมพิจารณา เป็นเหตุให้องค์ประชุมไม่ครบ โดยพรรคร่วมทุกพรรค รวมถึงพรรคเพื่อไทย เซ็นชื่อเข้าร่วม แต่ไม่พิจารณา
“แต่สิ่งสำคัญกว่าองค์ประชุมครบหรือไม่ไม่ครบ คือสิ่งที่กำลังจะทำสุ่มเสี่ยงจะผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และคิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เซ็นชื่อมาประชุม แต่ไม่เข้าร่วมพิจารณา” นายเอกนัฏกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้เหมือนเป็นข้อตกลงตั้งแต่แรกจากรัฐบาล นายเอกนัฏกล่าวว่า ข้อตกลงตั้งแต่ร่วมรัฐบาล เราชัดเจนและพูดเสมอว่าพรรค รทสช. และพรรคร่วมหลายพรรค ไม่เคยหาเสียงว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ แต่เนื่องจากมีข้อตกลงระหว่างพรรคร่วมว่า พรรคเพื่อไทยต้องการแก้รัฐธรรมนูญ เราขอให้ไม่แตะหมวด1 หมวด 2 กับสิ่งที่ไปกระทบกับการป้องปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และเพื่อไทยยืนยันทำตามสัญญาว่า การแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ว่าด้วยวิธีใดจะไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 แล้วไม่กระทบกับมาตรฐานการปราบปรามทุจริตประพฤติมิชอบ รทสช.ไม่ขัดข้อง แก้โดยวิธีใดต้องทำให้ถูกกฎหมาย คิดว่าพรรคเพื่อไทยเข้าใจเรื่องนี้ดี และจากการพูดคุยกันทุกพรรคร่วมเห็นว่าหากจะแก้ต้องทำให้ถูกกฎหมาย สิ่งที่เป็นห่วงไม่ใช่แก้ไม่แก้แต่กระบวนการแก้ไขถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ การถามศาลไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยมาแล้ว ก็ต้องทำตามศาล
เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญให้ความชัดเจนว่าสามารถเดินหน้าแก้ไขได้ พรรค รทสช.พร้อมเดินหน้าเต็มที่แก้ไขตามข้อตกลงด้วยหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า พูดว่าเต็มที่จะเข้าใจผิดว่าไปแก้โดยไม่สนใจอะไร ซึ่งเราจะไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 เมื่อถามย้ำว่า จะทำตามข้อตกลงไม่งอแง ใช่หรือไม่ นายเอกนัฏยิ้ม และกล่าวว่า ไม่งอแงอยู่แล้ว พรรค รทสช.ประกาศว่าจะทำอะไรจะทำตามสัญญาทุกเรื่อง ทุกอย่างเปิดเผย เราตรงไปตรงมา อะไรที่เป็นประโยชน์เราพร้อมร่วมทำอยู่แล้ว แม้ตอนหาเสียงเราจะไม่เคยโฆษณาเรื่องนี้ไว้และจะให้ความสำคัญเรื่องอื่น ซึ่งวันนี้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน และตนรับภารกิจหนักอยู่ และไม่ใช่งานง่ายที่จะปฏิรูปเรื่องพลังงานเพื่อลดราคาน้ำมันและราคาไฟฟ้า รวมถึงการปฏิรูประบบอุตสาหกรรม ที่จะกวาดล้างโรงงานเถื่อนลักลอบนำกากอุตสาหกรรมมาทิ้ง ขายของด้อยคุณภาพ ทั้งหมดนี้งานเยอะอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า แสดงว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่วาระเร่งด่วนใช่หรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า ก็แล้วแต่การตัดสินใจของพรรคร่วมรัฐบาล ย้ำว่าเรื่องนี้เราไม่เคยหาเสียง ถามว่าให้ความสำคัญไหมก็คงไม่ใช่ แต่หากพรรคร่วมต้องการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยที่ไม่ขัดกับเงื่อนไขที่ประกาศไว้เราก็ไม่ขัดข้อง
เมื่อถามย้ำว่า พรรคร่วมเห็นความจริงใจของพรรคเพื่อไทยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในการผลักดันเรื่องนี้มากแค่ไหน นายเอกนัฏกล่าวว่า เขาพยายาม แต่ติดตรงที่ว่าต้องทำตามกระบวนการ ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีปัญหา จนกระทั่งประธานบรรจุวาระ สมาชิกต้องเข้าร่วมประชุม ส่วนตัวคิดว่าถ้าไม่บรรจุแต่แรกก็คงไม่มีปัญหา ส่วนที่พรรคเพื่อไทยยอมรับความเห็นต่างของพรรคร่วมถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะทุกคนทำตามสัญญา เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญตามที่ประกาศ และพูดชัดไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ถือเป็นเรื่องที่ดี และ รทสช.ชัดเจนไม่สังฆกรรมกับการแก้มาตรา 112 หรือล้มล้างระบบการปกครอง รวมถึงหมวด 1 และหมวด 2 หรือแก้แบบไม่มีหลักประกันว่าจะไม่ไปแตะหมวด 1 และหมวด 2 จึงขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ชัดเจนตรงนี้เช่นกัน ส่วนเรื่องอื่นเราไม่ติดใจ