ธงทอง อาลัย ธานินทร์ กรัยวิเชียร ยกย่องเป็นครูคนสำคัญ อบรมสั่งสอนให้วิชา ใช้ประโยชน์ในชีวิตจนวันนี้

ธงทอง อาลัย ธานินทร์ กรัยวิเชียร ยกย่องเป็นครูคนสำคัญ อบรมสั่งสอนให้วิชา ใช้ประโยชน์ในชีวิตจนวันนี้

จากกรณีการถึงแก่อสัญกรรม ของศาสตราจารย์พิเศษธานินทร์ กรัยวิเชียร อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตองคมนตรีในรัชกาลที่ 9 สิริอายุ 97 ปี เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์นั้น

อ่านข่าว:ธานินทร์ กรัยวิเชียร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงแก่อสัญกรรม ในวัย 97 ปี

ล่าสุด นายธงทอง จันทรางศุ คณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี น.ส. แพทองธาร ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพื่อแสดงความอาลัยว่า  เมื่อเกือบ 50 ปีมาแล้ว ต้นปีพุทธศักราช 2519 ผมได้มีโอกาสรู้จักกับนักกฎหมายผู้มีชื่อเสียงยิ่งท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในนามของ ศาสตราจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร และผมได้รับอนุญาตให้ขานนามท่านว่า “ท่านอาจารย์ธานินทร์” โดยผมซึ่งเป็นนิสิตชั้นปีที่สี่ ของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในเวลานั้น ได้รับโอกาสทองของชีวิตเข้าไปช่วยทำงานเป็นทีมวิชาการของท่านอาจารย์ซึ่งขณะนั้นรับราชการอยู่ที่ศาลฎีกา ในการค้นคว้าเรียบเรียงหนังสือต่างๆ และนั่นเองเป็นเหตุให้ผมกล่าวได้เต็มปากเต็มคำ ท่านอาจารย์ธานินทร์เป็นครูที่ไม่ได้สอนวิชากฎหมายให้ผมในชั้นเรียน แต่เป็นครูที่สอนผมเขียนหนังสือ เป็นการสอนแบบตัวต่อตัว และผมได้ใช้วิชาที่อาจารย์ได้ฝึกฝนสั่งสอนมาเป็นประโยชน์ในชีวิตอีกยาวนานแม้จนปัจจุบัน

ADVERTISMENT

ต่อมาอีกไม่กี่เดือน ในขณะที่ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ผมซึ่งเป็นนิสิตชั้นปีที่สี่ภาคกำลังใกล้จะจบการศึกษาเป็นบัณฑิต ยังต้องไปส่งการบ้านงานเขียนให้ครูของผมที่ทำเนียบรัฐบาลหรือที่บ้านพักของท่านแล้วแต่ท่านจะกรุณานัดหมาย เวลานั้นห้องทำงานของท่านอยู่ที่ตึกบัญชาการ ไม่ใช่ที่ตึกไทยคู่ฟ้า มานึกย้อนหลังดูก็แปลกอยู่เหมือนกันที่ท่านให้โอกาสและความกรุณากับนิสิตคนหนึ่งมากมายถึงเพียงนั้น

ต่อมาเมื่อท่านพ้นจากหน้าที่นายกรัฐมนตรีและเป็นองคมนตรีแล้ว พอดีเวลากับที่ผมจะไปเรียนหนังสือระดับปริญญาโทที่ต่างประเทศ ผมต้องยอมรับว่าคะแนนภาษาอังกฤษของผมไม่ดีนัก ท่านอาจารย์ธานินทร์เป็นครูคนสำคัญที่ได้กรุณาเขียนหนังสือรับรองที่เรียก Recommendation ให้ผมอย่างงดงาม เพื่อให้มหาวิทยาลัยต่างประเทศมั่นใจว่าผมจะมีปัญญาเรียนหนังสือจบและกลับมาทำงานเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง และหนังสือรับรองจากท่านก็สัมฤทธิ์ผลจริงเสียด้วย นับว่าเป็นพระคุณล้นเหลือเพราะเป็นการให้โอกาสทางด้านการศึกษากับผมอย่างแท้จริง

ADVERTISMENT

ภายหลังเมื่อเรียนจบและกลับมาทำงานที่เมืองไทยแล้ว นอกจากได้พบท่านอาจารย์ในงานแวดวงวิชาการทั้งหลายแล้ว ผมถือเป็นข้อปฏิบัติส่วนตัว ที่จะต้องไปกราบขอพรจากท่านอาจารย์ในวาระวันขึ้นปีใหม่ของทุกปี โดยไปกราบท่านบ้านพัก พร้อมทั้งรายงานความเป็นไปในชีวิตของตัวเองในรอบปีที่ผ่านมา ถ้ามีหนังสือที่เขียนใหม่ ก็นำหนังสือเล่มนั้นไปกราบบูชาครู ข้างฝ่ายท่านอาจารย์ถ้ามีหนังสือเล่มใหม่ของท่าน ท่านก็เมตตามอบให้เป็นการแลกเปลี่ยนกัน ผมปฏิบัติอย่างนี้มาหลายสิบปี จนกระทั่งสองสามปีท้ายนี้เอง ที่สุขภาพของท่านอาจารย์เสื่อมลงไปมาก การไปกราบขอพรจากท่านอาจารย์จะเป็นการรบกวนท่านเกินไป ผมจึงทำได้แต่เพียงระลึกนึกถึงพระคุณของท่านอยู่เป็นประจำไม่เว้นวาย

ค่ำวันนี้ได้ทราบข่าวน่าสลดใจว่า ท่านอาจารย์ธานินทร์ ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว

กราบครูผู้มีพระคุณของผมด้วยความเคารพและอาลัย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image