‘ฝ่ายค้าน’ ดักคอ ‘ครม.’ บอกมาตอบชี้แจงซักฟอก คือหน้าที่ตามรธน. ชี้ ปชช.จะได้ฟัง 2 ด้าน ลั่น ไม่กังวลข้อสอบรั่ว ท้า วัดข้อมูลในสภา แนะ ‘ผู้นำรบ.’ หากหลักฐานชัดเจน ต้องปรับรมต.ที่มีข้อครหาออก
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่าขณะนี้เนื้อหาญัตติเสร็จสิ้นเรียบร้อย ซึ่งในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ คงจะมีการยื่นต่อประธานสภา ส่วนกรอบระยะเวลาในการอภิปราย ยืนยันว่าเราขอประมาณ 5 วัน และอยากส่งเสียงไปยังพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก เพราะเราเคยเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันในสภาชุดที่ 25 มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมด 4 ครั้ง และทุกครั้งใช้เวลา 4 วัน ทุกท่านคงทราบดี
นายปกรณ์วุฒิกล่าวต่อว่า หลายท่านก็อวดอ้างตัวเองว่าเก๋าเกมทางการเมือง รู้เรื่องการตรวจสอบถ่วงดุล และในสมัยที่แล้วท่านก็ขอวันอภิปรายไปกับฝ่ายรัฐบาล 5 วันทุกครั้ง หวังว่าได้เป็นรัฐบาลแล้วคงจะไม่ลืมว่าประเทศนี้ยังมีการตรวจสอบถ่วงดุลโดยสภาระหว่างฝ่ายค้านที่เป็นนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารอยู่
“ยืนยันว่าฝ่ายรัฐบาลจำเป็นต้องให้เวลากับฝ่ายค้านเต็มที่ ซึ่งตนคาดว่าจะไม่มีข้ออ้างเรื่องคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือนายกรัฐมนตรีติดภารกิจ เพราะนี่คือภารกิจตามรัฐธรรมนูญในการมาชี้แจงต่อสภาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ” นายปกรณ์วุฒิกล่าว
เมื่อถามว่า การอภิปรายรัฐบาลที่จะถึงนี้ถือเป็นครั้งแรกของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คาดหวังให้ ครม.มาตอบชี้แจงหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ใช่ความคาดหวัง แต่เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรี ไม่ใช่ถูกถามคำถามหรือถูกตั้งคำถาม แล้วไม่มีการมาตอบชี้แจงเลย หรืออาจจะให้ใครในพรรคคอยลุกขึ้นประท้วงไม่ให้ฝ่ายค้านพูด ตนถือว่านี่คือหน้าที่ของรัฐมนตรีที่เมื่อถูกซักฟอกไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านไหนก็ตามก็ต้องชี้แจง ประชาชนจะได้ฟัง 2 ด้าน ว่าฝ่ายค้านกล่าวหาว่าอะไร และรัฐมนตรีชี้แจงว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านพูดไปนั้นถูกต้องหรือไม่
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีระบุว่าเก็งข้อสอบไว้บ้างแล้ว ในวิปฝ่ายค้านได้มีการคุยกันหรือไม่ว่าข้อสอบอาจจะรั่ว นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เราไม่กังวลเรื่องข้อสอบรั่วหรือหากรั่ว ถ้าสิ่งที่เราพูดคือข้อเท็จจริงก็วัดกันในสภาฯ ว่าข้อมูลที่เราพูดไปกับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีจะชี้แจงกลับมา สังคมจะให้น้ำหนักกับฝั่งไหนมากกว่ากัน อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าวันที่ 27 กุมภาพันธ์ น่าจะรู้ว่ามีประเด็นใดบ้าง และผู้นำฝ่ายค้านจะนำแถลงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
เมื่อถามว่า จากเสถียรภาพของรัฐบาล ทางฝ่ายค้านมีลุ้นเรื่องการลงคะแนนหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นการพูดคุยของพรรคร่วม และหากถามว่าคาดหวังหรือไม่นั้น ทุกครั้งที่เราอภิปรายสิ่งที่เราคาดหวังมากคือ สังคมจะเห็นว่าข้อมูลที่มีจะสะท้อนถึงความไม่มีประสิทธิภาพ ความทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาลอย่างไร ส่วนการลงมติเป็นเรื่องของการเมืองเป็นหลัก
“เราหวังว่าการลงมติ หรือการไปล็อบบี้เพื่อลงมติไว้วางใจ จะไม่ใช่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างพรรคการเมือง เพื่อให้ลงมติไว้วางใจ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง และคาดหวังว่าทุกคนจะลงมติตามเนื้อหาสาระที่ทางฝ่ายค้านได้พูดไป และหากสิ่งไหนชัดเจนมากหรือพรรคไหนมีแผลที่ชัดเจน หลักฐานชัด คิดว่าในฐานะผู้นำรัฐบาลก็ควรจะตัดสินใจในการปรับ ครม. หรือปรับรัฐมนตรีที่อาจจะมีข้อครหาเหล่านั้นออก” นายปกรณ์วุฒิกล่าว