เท้ง ยื่นญัตติซักฟอก ‘อิ๊งค์’ วันนี้ เจอข้อหาหนักแลกผลประโยชน์ชาติ เพื่อประโยชน์ตัวเอง-ครอบครัว รบ.แย้มคิวถลก 24-28 มีค.
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาชน (ปชน.) ได้แจ้งหมายข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ในเวลา 10.00 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ห้องแถลงข่าวรัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคปชน. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เพื่อได้ดำเนินการตามขั้นตอนและบรรจุระเบียบวาระ รวมทั้งกำหนดวันที่จะเปิดอภิปรายต่อไป
รายงานจากพรรคปชน.แจ้งว่า เดิมพรรค ปชน. วางเป้าซักฟอก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรวม 10 คน แต่ล่าสุดทีมยุทธศาสตร์ของพรรคสับขาหลอก เปลี่ยนแผนโดยจะล็อกเป้ายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร เพียงผู้เดียวเท่านั้น สำหรับเหตุผลนั้นเนื่องจากเกิดกรณีข้อสอบรั่ว เกลือเป็นหนอนภายในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นพรรคใด ที่แอบส่งการบ้าน รายชื่อรัฐมนตรี 10 คน รวมถึงพฤติการณ์ต่าง ๆ ของรัฐมนตรี ที่ถูกจับขึ้นเขียง ไปให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ ช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ. เสมือนเป็นการปล่อยข่าวส่งซิก ไปให้รัฐบาลล่วงหน้า
ทีมยุทธศาสตร์พรรคปชน.มองว่า ด้วยสภาพสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ต้นตอของปัญหาจริงๆ คือรัฐบาลนี้ ยอมแลกผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อให้ผลประโยชน์ของตัวเอง และครอบครัว อีกทั้ง ยอมแลกทุกอย่างจนทุกอย่างพังไปหมด เลยต้องถอนรากถอนโคนและให้นำไปสู่การยุบสภาฯ แม้จะล็อกเป้าอภิปรายนายกฯเพียงคนเดียว แต่จะมีการอภิปรายสาวไส้ขยายผลแต่ละกระทรวงด้วย ดังนั้น ในส่วนที่ฝ่ายค้านมองว่า กระทรวงใดมีความผิดที่ชัดเจนจะมีการโรยเกลือยื่นร้องป.ป.ช.หลังจากศึกซักฟอกต่อไป ไม่มีละเว้น
ขณะที่ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะตัวแทนรัฐบาลที่เข้าร่วมประชุมวิป 3 ฝ่าย กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 27 กพ.ว่า มีการหารือกันระหว่างวิปฝ่ายค้าน และรัฐบาลแล้ว ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีกี่คน แต่ได้กำหนดกรอบเวลาคร่าวๆว่าจะใช้เวลาในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ระหว่างวันที่ 24-28 มีนาคม หลังจากนี้จะประชุมร่วมกันอีกครั้งเพื่อพิจารณาและกำหนดวันที่แน่นอนว่า ต้องใช้เวลาเท่าใดขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่ถูกยื่นอภิปรายและประเด็นด้วย