กัณวีร์ เปิดภาพรถติดเทปดำ 6 คันออกจาก ตม.สวนพลู จับตารัฐไทยส่ง 48 อุยกูร์ กลับจีน
อุยกูร์ – จากกรณีมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลไทยเตรียมส่งชาวอุยกูร์ 48 คนกลับประเทศจีน พร้อมกับที่ทางการจีนจะส่งเครื่องบินมารับคนจีนในแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ ระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ ขณะที่บางสำนักข่าวรายงานว่าชาวอุยกูร์ทั้ง 48 คน ขาดการติดต่อตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และยังไม่ให้เจ้าหน้าที่จาก UNHCR เข้าไปด้านในของสถานกักกันคนต่างด้าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สวนพลู) ด้วยนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า “ด่วนครับ !! มีรถบรรทุกของ ตม.ต้องสงสัยว่าจะขนชาวอุยกูร์ 48 คน ออกจากสำนักงาน ตม.สวนพลู เมื่อเวลา 02.14 น. ที่ผ่านมา มีการติดเทปดำทั้งคัน จำนวน 6 คัน มีรถตำรวจตามขบวน และปิดกั้นไม่ให้ขึ้นทางด่วนตาม
ท่านใดพบเห็นรถลักษณะนี้ แจ้งด้วยนะครับเพราะขณะนี้ยังไม่พบว่ากลับเข้าไปในสำนักงาน ตม.และผิดปกติ เพราะรถขนผู้ต้องกัก ปกติจะไม่ติดเทปดำมืดสนิทแบบนี้
รัฐบาลไทยกำลังทำอะไร นายกรัฐมนตรี ต้องตอบประชาชนอย่างเร่งด่วนนะครับ จะต้องไม่มีการส่งกลับชาวอุยกูร์ไปสู่การประหัตประหาร พวกเขาถูกขังฟรีมา 11 ปีแล้ว เราะละเมิดสิทธิมนุษยชนเขามากพอแล้ว สามารถมีแนวทางแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ครับ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา เอเอฟพี รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทยว่า ไทยปฏิเสธว่าไม่มีแผนที่จะส่งตัวชาวอุยกูร์ 48 คนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในศูนย์กักขังของไทยกลับประเทศจีน ทั้งนี้ หน่วยงานที่ตัดสินใจคือสภาความมั่นคงแห่งชาติ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ส่งตัวพวกเขากลับจีนแต่อย่างใด
เช่นเดียวกับที่ พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังไม่ได้ได้รับรายงานใดๆ เกี่ยวกับการเนรเทศบุคคลเหล่านี้
ด้าน กระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับชาวอุยกูร์ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในไทยระหว่างการแถลงข่าวว่า พวกเขาไม่ทราบถึงประเด็นใดเป็นการเฉพาะเจาะจง แต่จีนทำการปราบปรามการอพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในทุกรูปแบบอย่างเด็ดขาด และคัดค้านการผ่อนปรนใดๆ รวมถึงไม่สนับสนุนพฤติกรรมการอพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
– ภูมิธรรม สวน กัณวีร์ พร้อมปฏิเสธข่าวผลักดันอุยกูร์กลับประเทศ 20 ม.ค.นี้ มอบ สมช.ดูกม.
– รอมฎอน จับตารัฐบาลส่งอุยกูร์กลับจีน โพสต์คลิป มีรถถอยเข้าสถานกักกันฯ สวนพลู
– ไทยยันไร้แผนส่งกลับ 48 อุยกูร์ หลัง UN ร้องอย่าส่งไปจีน
ทำไมหลายภาคส่วนถึงเรียกร้องไม่ให้รัฐไทยส่ง ชาวอุยกูร์ 48 คนกลับจีน
ฮิวแมนไรท์วอทช์ ได้เปิดเผยว่า กลุ่มชายชาวอุยกูร์ 48 คนได้ถูกกักตัวเป็นเวลานานกว่าทศวรรษในสถานกักตัวคนต่างด้าวของ ประเทศไทย พวกเขาเสี่ยงจะตกเป็นเหยื่อของการบังคับให้สูญหาย การถูกคุมขังเป็นเวลานาน การทรมาน และการปฏิบัติมิชอบที่ร้ายแรงอย่างอื่น หากประเทศไทยบังคับส่งกลับพวกเขาไป ประเทศจีน
อีเลน เพียร์สัน ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไทยที่ผ่านมากักตัวชาวอุยกูร์ในสภาพที่ขาดมนุษยธรรม แต่ก็ได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลจีนให้ส่งตัวพวกเขาไปประเทศจีน ทว่ารัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร สามารถยุติวัฏจักรที่มิชอบเช่นนี้ได้ โดยการปล่อยตัวชาวอุยกูร์ที่ถูกกักตัวเหล่านี้ทันที และอนุญาตให้พวกเขาเดินทางไปอาศัยอยู่ในประเทศที่สามอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคม 2557 ตำรวจที่จังหวัดสงขลา ใกล้กับพรมแดนประเทศมาเลเซีย ได้จับกุมชาวอุยกูร์ 220 คน รวมทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก และดำเนินคดีฐานเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และต่อมาได้ส่งตัวพวกเขาไปยังสถานกักตัวคนต่างด้าวในกรุงเทพฯ ในช่วงเวลาเดียวกัน ทางการไทยยังได้จับกุมตัวชาวอุยกูร์คนอื่น ๆ อีกหลายสิบคน และนำตัวไปไว้ที่สถานกักตัวคนต่างด้าวทั่วประเทศ ในเดือนกรกฎาคม 2558 ผู้หญิงและเด็กชาวอุยกูร์ประมาณ 170 คนซึ่งถูกกักตัวที่จังหวัดสงขลา ได้รับการปล่อยตัวและเดินทางไปประเทศตุรกีแต่อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ทางการไทยกลับ บังคับส่งตัวชายชาวอุยกูร์กว่า 100 คนไปให้ทางการจีน โดยเดินทางด้วยเครื่องบินไปประเทศจีน
ชาวอุยกูร์ 48 คนที่ยังคงถูกกักตัว ได้ถูกควบคุมตัวมาแล้วกว่า 10 ปี ในสภาพที่เลวร้าย ขาดสุขอนามัยและขาดการรักษาพยาบาลที่เพียงพอภายใต้ ความหวาดกลัวอย่างต่อเนื่องว่าอาจถูกส่งตัวไปให้ทางการจีนควบคุมตัวชาวอุยกูร์ห้าคนที่ถูกกักตัวตั้งแต่ปี 2557 เสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัว รวมทั้งเด็กแรกเกิดและเด็กอายุสามขวบอีกคนหนึ่ง
ในจดหมายซึ่งสื่อมวลชนได้รับมาจากผู้ต้องกัก 48 คนลงวันที่ 10 มกราคม 2568 กลุ่มชาวอุยกูร์กล่าวว่า “เราอาจถูกคุมขัง และเราอาจจะต้องเสียชีวิต เราขอวิงวอนอย่างเร่งด่วนต่อหน่วยงานระหว่างประเทศและประเทศที่ใส่ใจต่อสิทธิมนุษยชน ให้ทำการแทรกแซงอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือพวกเราให้รอดพ้นจากชะตากรรมอันเลวร้าย ก่อนจะสายเกินไป” พวกเขาอยู่ระหว่างการอดอาหารประท้วง
สำหรับ ชาวอุยกูร์ เป็นชาวมุสลิมที่พูดภาษาเตอร์กิก ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน รัฐบาลจีน มีท่าทีต่อต้านมาเป็นเวลานาน ต่อการแสดงออกตามอัตลักษณ์ของชาวอุยกูร์ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การปราบปรามของจีนต่อชาวอุยกูร์ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยทางการได้ปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชนต่อพวกเขาอย่างกว้างขวางและเป็นระบบ ถึงขั้นเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ทางการยังได้ควบคุมตัวบุคคลโดยพลการ ได้ลงโทษอย่างไม่เป็นธรรม มีการสอดแนมข้อมูลอย่างกว้างขวาง มีการ บังคับใช้แรงงาน และมีการจำกัดเสรีภาพในการเดินทางของประชากรกลุ่มนี้ คาดการณ์ว่าชาวอุยกูร์ครึ่งล้านคน ยังคงถูกคุมขัง โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง โดยทางการมักกล่าวหาว่าการปฏิบัติอย่างสงบในชีวิตประจำวันของพวกเขา รวมทั้งการทำละหมาดหรือการติดต่อกับญาติที่อยู่ในต่างประเทศ เป็นการก่อการร้ายและแสดงถึงความคิดที่สุดโต่ง
ชาวอุยกูร์ที่หาทางหลบหนีจากประเทศจีนอย่างผิดกฎหมาย หากถูกส่งตัวกลับมา จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยและเสี่ยงที่จะถูกควบคุมตัว ถูกสอบปากคำ ตกเป็นเหยื่อของการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีอื่น ๆ