จิราพร ถก สคบ. วาง 3 มาตรการกวาดล้าง บุหรี่ไฟฟ้า ลั่นหากพบเจ้าหน้าที่เอี่ยวลงโทษทันที 

จิราพร ถก สคบ. วาง 3 มาตรการปูพรมกวาดล้าง “บุหรี่ไฟฟ้า” ขู่หากพบเจ้าหน้าที่เอี่ยว ลงโทษทันที เผย ลักลอบนำเข้า สอบสวนกลาง ส่ง ปปง. ยึดทรัพย์ได้ พร้อมสั่งทำแผนแก้ปัญหาระยะยาว

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า มหันตภัยร้ายทำลายเด็กและเยาวชน และหารือมาตรการบังคับใช้กฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ว่า ตามข้อสั่งการของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีข้อห่วงใยเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชน
ได้มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าให้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น โดยให้ปราบปรามและดูข้อกฎหมายในระยะยาวต่อไปว่าจะปรับแก้อย่างไรได้บ้าง

นางสาวจิราพรกล่าวว่า เมื่อวานนี้ (26 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีได้มีการเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และตนมาหารือเบื้องต้น เพื่อดูแนวทางการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันนี้จึงได้เชิญหน่วยงานทั้งหมด 17 หน่วยงาน เข้ามาหารือกันเพื่อปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

ADVERTISMENT

โดยแบ่งผลการหารือเป็น 3 ส่วน ประการแรก คือ ระยะเร่งด่วน ระยะเฉพาะหน้า ต้องมีการปูพรมปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า โดยต้องเน้นป้องกันการนำเข้าบริเวณชายแดน ซึ่งศุลกากรจะเป็นหน่วยงานสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่และบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นขึ้น กล่าวคือ หากพบว่ามีการลักลอบนำเข้าจะไม่มีการระงับคดีเด็ดขาด และจะส่งไปที่ตำรวจสอบสวนกลางเพื่อดำเนินคดี และส่งไปที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ตรวจยึดทรัพย์ หรืออายัดทรัพย์ต่อไป เพื่อช่วยป้องปรามไม่ให้ผู้นำเข้าลักลอบเข้ามาอีก โดยเฉพาะบริเวณชายแดน

ส่วนร้านค้าผู้จำหน่ายในประเทศจะมีการปราบปรามกันอย่างเข้มข้นเพื่อกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าที่มีที่ตั้งและร้านค้าออนไลน์ โดยจะทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกระทรวงมหาดไทย ขณะเดียวกัน จะเปิดให้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสเข้ามาในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่อไปจะมีการขึ้นโชว์บนแพลตฟอร์มเพื่อแสดงยอดการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ว่ามีจำนวนเท่าใด หากผ่านไปหนึ่งเดือนประชาชนก็จะเห็นความตั้งใจของเจ้าหน้าที่

ADVERTISMENT

สำหรับการขายสินค้าบนโลกออนไลน์ที่ประชุมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเพิ่มการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน จึงได้ขอความร่วมมือกับบริษัท TikTok ให้เข้มงวดตรวจตรา จากนั้นก็จะจัดประชุมหารือร่วมกันกับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มและผู้ประกอบการขนส่ง เพื่อตรวจตราและหาแนวทางป้องกันการขายบนโลกออนไลน์

ส่วนที่สองจะมีการประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้โดยจะเน้นย้ำไปที่สถานศึกษาที่นายกรัฐมนตรีห่วงใยเป็นพิเศษ โดยกระทรวงศึกษาธิการจะเป็นเจ้าภาพหลักในการทำงานร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กรมประชาสัมพันธ์ และ กสทช. เพื่อประชาสัมพันธ์ถึงโทษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งในนักเรียน ครู และผู้ปกครอง

ส่วนประการที่สามจะมีการศึกษาข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว ว่าจะต้องมีการปรับปรุงกฎหมายฉบับใดหรือไม่ เพื่อให้การลงโทษเข้มข้นขึ้น และให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ

เมื่อถามว่า หากมีเจ้าหน้าที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น กรณีการตรวจจับร้านบุหรี่ไฟฟ้า แต่มีการปิดร้านหนีไปก่อนจะมีมาตรการอย่างไร นางสาวจิราพรกล่าวว่า หากมีการลักลอบส่งเข้ามาและตรวจพบว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทางหน่วยงานจะต้องพิจารณาดำเนินการลงโทษเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันว่าพร้อมที่จะดำเนินการลงโทษทันทีหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เอี่ยว

สำหรับแผนปูพรมกวาดล้าง นางสาวจิราพรกล่าวว่า จะเริ่มตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีให้มีการประเมินผลภายในระยะเวลา 30 วัน ส่วนเรื่องการวางมาตรการหรือการดำเนินการที่เกี่ยวข้องให้หน่วยงานต่างๆ กลับไปทำแผน และอีก 1 สัปดาห์จะมาประชุมอัพเดตแผนการดำเนินงานกันใหม่ ก่อนที่จะไปรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่าในระยะยาวต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image