กัณวีร์ ซัดรบ.บิดเบือน ชี้ มีมากกว่า 3 ชาติ ขอรับอุยกูร์แต่ไทยไม่ให้ ไล่ไปลาออก UNHRC
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ กัณวีร์ สืบแสง ส.ส.พรรคเป็นธรรม ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า “หยุดโกหกและหลอกลวงคนทั้งโลกกับการออกมาแก้ตัวแถลงชี้แจงกรณีส่งชาวอุยกูร์กลับจีน
ขออนุญาตลากไส้ออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้
(อยากอ่านสรุปเร็วข้างล่างนี้ ถ้าอยากเอารายละเอียดเชิญด้านล่าง)
1. เรื่องหลักการการส่งกลับที่เป็นไปตามสากล – สากลกี่โมง เริ่มด้วยนิยามผู้ลี้ภัยและการกลับประเทศต้นทาง
2. เรื่องการสมัครใจกลับ – สมัครใจกี่โมง ผมอยู่ในเหตุการณ์ที่สงขลาเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ไม่มีใครอยากกลับ
3. เรื่องไม่มีประเทศที่ 3 ติดต่อรับ – เมื่อ 11 ปีที่แล้ว ตุรกีส่งเครื่องบินมาเตรียมรอ สุดท้ายตุกติกไม่ส่ง หลายๆประเทศก็รอรับ ก็ไม่ส่งไป
เอารายละเอียด+อรรถรส ด้านนี้ครับ
1. ที่บอกว่าเป็นไปตามขั้นตอนหลักสากล รู้จักหลักสากลที่ว่านี้จริงแค่ไหน ?? หลักการไม่ส่งกลับ (non-refouelment) มันต้องเริ่มจากนิยามผู้ลี้ภัย คือผู้ที่มีความหวาดกลัวอย่างประจักษ์ต่อการถูกประหัตประหาร ไม่สามารถอยู่และไม่อยากอยู่ที่ประเทศต้นกำเนิด ด้วยเหตุผลการกดขี่ด้วยเหตุทางเชื้อชาติ ศาสนา สัญชาติ ความเห็นทางการเมือง หรือ การเป็นสมาชิกของกลุ่มสังคมที่ถูกตามล่า
ผู้ลี้ภัยจึงไม่มีความประสงค์จะกลับไปประเทศตันกำเนิด ดังนั้น จารีตประเพณีปฏิบัติระหว่างประเทศ คือสิ่งที่ทุกประเทศเคารพและปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง จึงกลายเป็นสิ่งที่ทุกประเทศต้องพึงปฏิบัติตามโดยไม่ต้องลงนามแต่อย่างใด ดังนั้นเราจะไม่สามารถบังคับหรือผลักดันให้คนกลับไปตายได้ !!
2. แถมโกหกอีกว่าสมัครใจกลับ !! ใครสมัครใจกลับ ?? ผมอยู่กับพวกเค้าตั้งแต่วันแรกที่ถูกพบในป่าที่รัตภูมิ จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2557 ผมยังจำได้ดีว่าผมต้องซื้อผ้าเช็ดตัวมาให้ชาวอุยกูร์ผู้ชายทุกคนที่ถูกกักอยู่ในหลายห้องกักของ สตม. เพื่อให้พวกเค้าคลุมหัว แล้วนอนคว่ำหน้า เมื่อกงสุลของจีนอยากเข้าพบพวกเค้า !!
แต่กฎของ ตม.ไทยคือหากผู้ต้องกักไม่อยากพบใคร ก็สามารถปฏิเสธการเข้าพบได้ แต่!!! กงสุลจีนไม่สนเดินทะลึ่งเข้าไปในห้องกักหลายครั้ง ผมเลยตัดสินใจซื้อผ้าเช็ดตัวให้ทุกคนเพื่อปิดหน้าปิดตาเมื่อมีคนทะลึ่งเข้ามา
จนกระทั่งหากใครตามข่าวก็จะทราบว่าเมื่อเดือนที่แล้ว มกราคม 2568 ผู้ต้องกักอุยกูร์ทุกคนที่สวนพลูแจ้งว่าถูก จนท. สตม. มาสอบถามถึงความสมัครใจในการกลับจีนและเอาเอกสารบางอย่างมาให้ทุกคนเซน และจับถ่ายรูปทุกคน ผลก็คือมีการอดข้าวประท้วงกันประมาณครึ่งเดือน เพราะกังวลและเกรงกลัวว่าจะถูกผลักดันกลับจีน จนภาคประชาสังคมต้องเข้าไปพูดคุยด้วยว่าจะไม่มีการผลักดันกลับ ทุกคนจึงกลับมากินอาหาร
มันจะเปลี่ยนใจกันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ ตลกจัด !!
ไม่เรียนรู้เรื่อง 109 คนที่ถูกผลักดันกลับจีนเมื่อปี 2558 ถามจริงรู้หรือไม่ชะตากรรมพวกเค้าเป็นยังไง ?? เคยขอติดตามไปดูชีวิตเค้าหลังการถูกผลักดันกลับหรือไม่ ไม่ใช่แค่ให้เลขา สมช.ไปดูแล้วยิ้มแย้มบอกว่าการันตีความปลอดภัยแล้วเดินทางกลับมา รูปที่เห็นวันนี้เลขา สมช.ยืนยิ้มไปดูคนถูกผลักดันกลับมันสะอิดสะเอียนเหมือนเคยเห็นมาเมื่อปี 2558 ไม่ผิดเพี้ยน
กล้าถามจีนมั้ยว่า 109 คน อยู่ที่ไหน ?? แล้วยังมีหน้ามาการันตีความปลอดภัย
นักการเมืองและรัฐบาลให้ข้าราชการอย่าง สมช. กต. และ สตม. มานั่งโกหกฝ่ายนิติบัญญัติว่าไม่มีนโยบายใดๆ ในการผลักดันกลับ สมช. ที่มาเข้าประชุม กมธ.กฎหมายฯ แจ้งที่ประชุมว่า “กลุ่มคนเหล่านี้อพยพออกมาจากประเทศต้นทางและไม่ขอกลับไปยังประเทศต้นทาง…” และไม่มีการเตรียมการใดๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการส่งกลับ
แต่จับโป๊ะว่ามีการเตรียมการมาเป็นแรมเดือนอย่างระมัดระวังอย่างครอบคลุม แถมบอกว่าอย่าจินตนาการกันไป
ท่านนั่นแหละที่จินตนาการ จินตนาการว่าเค้าอยากกลับเอง ทั้งๆ ที่เค้าเดินทางข้ามน้ำข้ามแดนมาเป็นหลักพันๆ กิโลเพื่อหนีความตาย แล้วยังบอกว่าเค้าอยากกลับบ้าน จินตนาการว่าผมจินตนาการใส่ร้ายและมาพูดเรื่องการส่งกลับผู้ลี้ภัยอุยกูร์ ขอบอกครับผมไม่จินตนาการ ผมมาจากข้อมูลและหลักฐาน ไม่ใช่คนอย่างพวกท่าน !!
3. หยุดโกหกบิดเบือนว่าตั้งแต่พบชาวอุยกูร์ในไทยเป็นเวลามากกว่า 10 ปี ไม่มีประเทศไหนมาขอรับไปตั้งถิ่นฐานใหม่เลย หยุด !! ผมนี่แหละที่เป็นคนประสานกับรัฐบาลตุรกีเมื่อปี 2557 ผ่าน สอท.ตุรกีประจำประเทศไทยในการขอตั้งถิ่นฐานใหม่ในตุรกี และเค้าอำนวยความสะดวกว่าจะส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำ 2 ลำ จากแองคาร่าเมืองหลวงตุรกีมาไทยภายใน 24 ชม. หากแต่คำสัญญาในช่วง รบ.ยิ่งลักษณ์เปลี่ยนใจไม่ให้ส่งไปตุรกีตอนนั้น เค้าเลยติดชะงักอยู่ห้องกัก สตม.จนถูก รบ.แพรทองธารผลักดันกลับจีนในปี 2568
อย่ามโนว่าไม่มีคนอยากรับเขา ยังมีมากกว่าตุรกีอีก 2 ประเทศที่ต้องการแต่รัฐบาลไม่เอา มันเป็นเพราะอะไร เพราะคำแนะนำของ สมช.งั้นมั้ย ? ถ้าใช่ สมช.มีปัญหาหนักต้องปรับมันทั้งโครงสร้างตั้งแต่ เลขา สมช. ลงไป เพราะมันกลับถูกสร้างมาเป็นเครื่องมือรับใช้นักการเมืองมากกว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านความมั่นคง
แต่หากมันเป็นเพราะฝ่ายการเมือง แสดงว่ารัฐบาลไร้ความรู้ด้านนี้มาก แย่!! มาสร้างบาดแผลบนรอยมนุษยธรรมและความชั่วร้ายที่ถูกฝังอยู่กับไทยอย่างลบออกไม่ได้
ทำอะไรไม่โปร่งใส ไปตกลงกับสีจิ้นผิงไว้ว่าจะร่วมผลักดันผู้ลี้ภัยอุยกูร์กลับจีน อย่างนี้เค้าเรียกว่าการกดปราบข้ามชาติอย่างเปิดเผยและเป็นทางการ เน่าเฟะที่สุด ลาออกไปเถอะกับสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเถอะ ไม่เหมาะสม!!
ชีวิตคนนะที่คุณกำลังเล่นเกมส์อุบาทว์นี้อยู่ เดี๋ยวจะตามล้างให้หมดตั้งแต่ผู้นำรัฐบาล ยันคนโกหกระดับปฏิบัติการ