นายกฯ อิ๊งค์ จัดรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ตอน 2 ยัน เดินหน้าดันจีดีพีไทย เชื่อรัฐ-เอกชน จับมือผลักดันก้าวกระโดด มั่นใจศักยภาพไทยทำได้ ย้ำ “ดึงการลงทุนใหม่-ยกระดับสินค้าเกษตร เน้นวิจัย-พัฒนาสายพันธุ์-แปรรูป เพิ่มมูลค่า สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้คนไทย แจงจีดีพีไทยรั้งท้ายอาเซียน เหตุไทยไม่มีการลงทุนภาคอุตฯใหม่กว่า 10 ปี และคนไทยเตรียมตัวไม่ทันต่ออุตฯ ใหม่
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 มีนาคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จัดรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ตอน 2 ถึงภาพรวมเศรษฐกิจ ตัวเลขจีดีพีของประเทศ การสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน และยกระดับภาคเกษตรของไทย ว่า ในเรื่องเศรษฐกิจ พบว่าตัวเลขจีดีพีจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ที่ออกมา มีคำถามและหลายฝ่ายกังวลว่าทำไมเศรษฐกิจของไทยไม่โต หรือรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน ตรงนี้มีข้ออธิบายว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเราทำอะไรเพิ่มเติมบ้าง และรัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่บ้าง โดยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 จีดีพีโตขึ้น 3.2% โดยภาพรวมทั้งปีขึ้นมา 2.5% แต่อย่าเสียกำลังใจ เพราะตัวเลขโตขึ้นจากปี 2566 ที่จีดีพีอยู่ที่ 2% โดยไตรมาส 4 ปีที่แล้วขึ้นมามากจากมาตรการฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐและการลงทุนที่มาจากบีโอไอ แต่คำถามว่าตัวเลขที่ขึ้นแล้วทำไมจีดีพีของประเทศขึ้นน้อย เทียบกับเพื่อนบ้าน และรั้งท้ายอาเซียน เพราะ 10 กว่าปีที่ผ่านมาไม่ได้มีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ และคนไทยเตรียมตัวไม่ทันต่ออุตสาหกรรมใหม่ ทั้งที่คนไทยมีศักยภาพ รอแค่โอกาสการลงทุนเพิ่มเติม
รวมถึงการเพิ่มทักษะของคนที่ต้องสนับสนุนให้พร้อมต่ออุตสาหกรรมใหม่ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ การผลิตรถอีวี เช่น ประเทศมาเลเซียมีการเตรียมตัวทำเซมิคอนดักเตอร์มานาน ด้านเวียดนาม ฝึกคนเขียนซอฟต์แวร์ ที่รัฐบาลและภาคเอกชนเขาช่วยกันหาความรู้ใหม่ เพื่อผลักดันคนให้พร้อมสำหรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ขณะที่ประเทศไทยเพิ่งจะพูดถึงเรื่องของการเพิ่มทักษะและทบทวนทักษะไม่กี่ปีที่ผ่านมา และจะต้องทำต่อ หากเวลาผ่านไปเป็น 10 ปี เราไม่เดินหน้า อุตสาหกรรมของเราก็จะตามคนอื่นไม่ทัน
นายกฯกล่าวว่า เรื่องการลงทุนเมื่อภาครัฐลงทุนแล้วภาคเอกชนต้องช่วยกัน ทุกฝ่ายต้องช่วยกันผลักดันจีดีพีประเทศขึ้นด้วยกัน ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และอยากให้ธุรกิจเอสเอ็มอีซึ่งเป็น 75% ของประเทศประเทศมีการลงทุนมากขึ้น โดยต้องอาศัยธนาคารพาณิชย์ ปล่อยสินเชื่อให้ประชาชนมากขึ้นเพื่อนำเงินไปพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีอยู่แล้ว รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงานโดยตนเป็นนายกฯมา 5 เดือนเกือบ 6 เดือน พบว่างบประมาณมีค่อนข้างจำกัด และถูกนำไปใช้จ่ายกับงบประจำ จึงพยายามรัดเข็มขัดให้ดี ไม่ให้มีการจ่ายงบประจำเพิ่มขึ้น เพราะอยากให้เงินส่วนนี้ไปใช้ในการลงทุนของภาครัฐมากกว่า คิดว่าการทำงานของรัฐบาลร่วมมือกับเอกชนคิดว่าจีดีพีจะโตสูงขึ้นได้ ปัญหานี้อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าต้องอาศัยหลายสิ่งในการผลักดัน
โดยรัฐบาลจะเร่งลงทุนในภาครัฐเพิ่มขึ้น หาเม็ดเงินใหม่มาลงทุน ซึ่งปี 2567 มีต่างชาติมาลงทุนในไทยกว่า 1 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี และทั้ง Google TikTok NVIDIA ก็จะมาลงทุนในประเทศ ขอชื่นชมบีโอไอที่ประสานกับภาครัฐมาตลอด เวลาไปต่างประเทศจะมีเป้าหมายชัดเจนว่าเราจะคุยกับใคร และจะดึงใครมาลงทุนบ้าง ล่าสุดที่ตนเดินทางไปประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม ที่ดาวอส สมาพันธ์สวิส ตนได้ให้ความมั่นใจว่าจะผลักดันเรื่องการลงทุนและตนจะต้องอยู่ครบเทอมเพื่อผลักดันการลงทุน ต่างชาติมั่นใจว่าไม่ใช่จู่ๆ เราจะเปลี่ยนรัฐบาล หรือยุบสภา เรื่องเกมการเมืองอีกเรื่องหนึ่ง แต่คนเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องตระหนักและหนักแน่นเข้าไว้ในเรื่องนี้ ถ้าเราหนึ่งคนเล่นเกมการเมืองทุกอย่างที่คุยไว้ไม่มีใครเชื่อและการลงทุนจบ
การไปคุยเพื่อบอกข้อดีที่ว่าเมื่อมาลงทุนในไทย การตั้งโรงงานและใช้พื้นที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าที่อื่นในเพื่อนบ้าน สมมุติจะไปตั้งฐานการผลิตที่สิงคโปร์ การจ้างแรงงานและใช้พื้นที่จะแพงกว่า และขณะนี้อุตสาหกรรมที่จะมาลงทุนมีทั้งอุตสาหกรรมดิจิทัล เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนรถอีวี ที่จะเน้นภาพเนื่องจากมีโรงงานในประเทศไทย ทั้งของญี่ปุ่น จีน เริ่มเปลี่ยนจากรถยนต์ปกติให้เป็นอีวี หรือเป็นไฮบริด และพลังงานสะอาด ที่มีบทบาทมากในอนาคต เมื่อมาลงทุนมากก็จะเกิดการจ้างงานมากขึ้น ค่าแรงแพงขึ้น ตรงนี้คือการสนับสนุนภาพรวมทั้งหมด
การที่ต่างประเทศลงทุนไม่ใช่แค่จีดีพีประเทศขยับ แต่จะลงไปถึงรากเล็กที่ได้ทั้งระบบจริง วันนี้อาจจะไม่มีทักษะที่มากพอ แต่จะเน้นการศึกษา เพิ่มโอกาสให้เด็กในการเรียนต่อ ให้ศึกษาอุตสาหกรรมอนาคต และเทคโนโลยีที่ประเทศไทยยังขาดอยู่ โดยเพิ่มโอกาสจากโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน ทุกคนกลับเข้ามาสู่ระบบการศึกษา ต่อการจ้างงาน เพิ่มโอกาสให้กับตัวเอง เพิ่มโอกาสในการถูกจ้างนาน และเพิ่มโอกาสในการหารายได้ในอนาคต สำหรับใครที่เรียนเรื่องแพคเกจจิ้ง ขอให้เรียนต่อเพราะจะมีประโยชน์แน่นอน ใครเรียนซ่อมรถต้องเรียนซอฟต์แวร์เพื่อลงระบบของรถให้เป็น วิศวกรคอมพ์ให้เรียนและลุยต่อ เพื่อเป็นทุนของประเทศ
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ส่วนเรื่องการเกษตร จะพัฒนาการเกษตร ยกระดับเศรษฐกิจไทย เกษตรกรไทยมีประมาณ 10 ล้านคน พื้นที่การเกษตร 47% แปลว่าเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศไทยคือพื้นที่การเกษตร แต่รายได้เป็น 9% ของจีดีพี ถือว่าน้อยมาก แปลว่าเกษตรกรทำงานหนักแต่ได้เงินน้อย ตนอยากหลับตาแล้วเปลี่ยน แต่มีกระบวนการมาก ยกตัวอย่างข้าวราคาตกเพราะทั่วโลกส่งออกเพิ่ม ส่งผลกระทบไปถึงเกษตรกรตัวเล็ก จึงเรียกผู้เกี่ยวข้องมาหารือและออกมาตรการช่วยเหลือชาวนา ให้มั่นใจว่าสินค้าตัวนี้จะมีราคาเพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลจะหาตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น ควบคู่กับต้องทำการวิจัยพัฒนาพันธุ์ข้าว พันธุ์พืช และการเลี้ยงสัตว์ เพื่อส่งออกให้ได้คุณภาพดี
ก่อนหน้านี้เราส่งออกกุ้งกว่า 6.5 แสนตันต่อปี แต่เวลานี้เหลือ 2.5 แสนตัน ขณะที่เพื่อนบ้านมีตัวเลขกลับกับของเรา ดังนั้น วิธีการที่จะทำให้ตัวเลขกลับมาคือต้องทำวิจัย พัฒนาพันธุ์กุ้งที่มีคุณภาพที่ดีพอ หรือจะเพิ่มสายพันธุ์อื่นในการส่งออก เรียกว่าเกษตรกรแม่นยำ ขณะที่เรื่องดิน ต้องวิจัยว่าดินชนิดนี้จะปลูกพืชแบบไหนได้ผลดี เมล็ดพันธุ์แบบไหนจะทำให้ข้าวโพดเม็ดใหญ่ หวานขึ้น การวิจัยเลี้ยงสัตว์จะต้องพัฒนาว่าควรเลี้ยงในสภาพแวดล้อมแบบไหนให้ได้ผลผลิตที่มีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำลังดำเนินการอยู่ แต่ต้องอาศัยแรงของเกษตรกรทุกคน แรงงานแรงใจ ขณะที่รัฐบาลจะหาตลาด เกษตรกรได้ขายของ การวิจัย จะทำให้เกษตรกรทำงานเท่าเดิมแต่ได้เงินเพิ่มขึ้น ขายได้แพงขึ้นเพราะผลผลิตและสินค้ามีคุณภาพดีขึ้น
สำหรับผลไม้ไทยที่จะเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ทั้งทุเรียน ลำไย มังคุด มะม่วง ที่ทุกประเทศพยายามผลิตรวมทั้งจีน มาแข่งขันกับไทย เราต้องพัฒนาให้มีอัตราต่อรองในการส่งออกได้เน้นที่คุณภาพต้องดี จะเปลี่ยนผลไม้ไทยให้มีมูลค่า เช่น ทุเรียนต้องทานแบบนี้ เพราะคนไทยทานแบบนี้ จึงจะเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรได้ เช่น การทำไวน์ฝรั่งเศสจากองุ่นที่ทั่วไป แต่นำมาแปรรูปขายขวดละนับแสนบาท จึงต้องผลักดันเรื่องการแปรรูป ขณะนี้เรานิยมปลูกชาและกาแฟ ที่รัฐบาลอยากส่งเสริมให้ปลูกหลายพันธุ์เพิ่มขึ้น เพื่อกำหนดเป็นมาตรฐานของไทย
ส่วนเรื่องของอาหารจะผลักดันให้ใช้วัตถุดิบของไทย ให้ประเทศไทยส่งออกวัตถุดิบพืชผักสวนครัวไปทั่วโลก ไปตามร้านอาหารไทยที่มีจำนวนมากทั่วโลก บางครั้งร้านอาหารไทยไม่ได้ซื้อวัตถุดิบจากประเทศไทย แต่ซื้อในประเทศนั้น จึงอยากให้เกษตรกรได้ประโยชน์จากการส่งสินค้าไทยไปทั่วโลก ให้ได้สัมผัสและเข้าใจความเป็นไทยโดยรัฐบาลทำเรื่อง Thai SELECT จัดอันดับให้ดาวสินค้าในร้านอาหารไทยในต่างประเทศที่มีรสชาติเป็นไทยแท้ ใช้วัตถุดิบประเทศไทย ซึ่งเป็นภาคต่อจากครัวไทยสู่ครัวโลก ของรัฐบาลไทยรักไทย เนื่องจากอาหารไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่เข้าใจง่ายและเป็นทูตความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้อย่างดี เช่น เมื่อพูดคุยกับชาวต่างประเทศจะสอบถามว่ารู้จักอาหารไทยหรือไม่ และอาหารอะไรเป็นจานโปรด ทำให้เริ่มคุยง่ายเพราะทุกคนรู้จักและเป็นทูตชั้นดีของประเทศเรา นอกจากนั้นจะส่งเสริมการแปรรูปอาหารให้ส่งออกง่าย เพราะสามารถเก็บได้ยาวนานขึ้นเมื่อไปถึงปลายทาง เป็นการเพิ่มโอกาสสินค้าและโอกาสของเกษตรกรที่นำผลผลิตมาแปรรูปจะไม่ต้องเสียสินค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้าย นายกฯได้เล่าประสบการณ์เรื่องเล่าจากภาพในการลงพื้นที่ จ.พัทลุง และ จ.สงขลา ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร โดยหยิบยกขนมตาลภาคใต้ เรียกขนมลูกโหนด พร้อมเอ่ยชมว่ามีรสชาติอร่อย มีความเหนียวหนึบ อร่อยจนต้องยกนิ้วให้ รวมถึงชมสะพานทัศนียภาพสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.พัทลุง ที่ประชาชนต้อนรับและบอกว่าสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ให้งบประมาณก่อสร้าง 700 ล้านบาท เมื่อลูกมาจะได้งบอีกทีแน่นอน ต้องบอกว่ารัฐบาลดูแลอยู่แล้วทุกจังหวัด ทุกที่ ไม่เลือกว่าจังหวัดไหน หรือพ่อเคยทำไว้ก่อนหรือไม่ไม่เกี่ยวกัน ทุกที่ทุกจังหวัดคือประเทศไทย
ฉะนั้นนายกฯจะต้องดูแลประเทศไทยให้ดีที่สุดโดยไม่มีข้อต่อรอง และเต็มที่กับประชาชนทุกจังหวัด นอกจากนั้นจะให้ดูไฟที่ติดตั้งสะพานดังกล่าวให้มีแสงสว่างได้อย่างไรโดยไม่ให้ทำลายแหล่งธรรมชาติทะเลน้อยที่มีควายน้ำและนก 128 สายพันธุ์ ต่อมายังได้ชมการแสดงโนราตัวอ่อนจากศิลปินแห่งชาติ และเด็กที่มาแสดงอายุเพียง 5 ขวบ และยังได้เดินชมย่านเมืองเก่าสงขลาที่บรรยากาศดีและน่าผลักดันต่อ เพราะมีศักยภาพเต็มเปี่ยม และรับฟังข้อเสนอพัฒนาเรื่องท่าเรือ เช่นเดียวกับภูเก็ตที่มีท่าเรือจำนวนมาก และมีการนำเรือยอชต์มาซ่อม ถ้าสงขลามีท่าเรือจะสามารถรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น เป็นเรื่องที่น่าสนใจและจะต้องศึกษาต่อไปว่าสามารถทำได้อย่างไรต่อไป
“สิ่งที่พูดมาทั้งหมดเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันจีดีพีของไทย และรัฐบาลจะทำต่อจะผลักดันอย่างแน่นอน เพื่อทำให้จีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้น จีดีพีเพิ่มขึ้นแปลว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนเพิ่มขึ้นด้วย เมื่อตัวเลขเป็นอย่างนี้จะได้ให้ประเทศอื่นดูด้วยว่าประเทศไทยมีคุณภาพและศักยภาพ หลังจากจีดีพีที่ไม่ได้โตขึ้นมานาน ขณะนี้ค่อยๆ โตขึ้นและไปต่อ ซึ่งอยากให้ขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่ต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อจะได้มีจีดีพีแบบก้าวกระโดดและสามารถเป็นไปได้ รัฐบาลอยากให้ประชาชนรวยเพื่อที่จะได้จับจ่ายใช้สอยให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ จะได้วินวิน ในตอนต่อไปจะเก็บประสบการณ์มาเล่าให้ประชาชนได้ฟัง สิ่งที่อยากได้คำตอบก็จะตอบตรงจากตนในรายการ และขอกำลังใจจากทุกคน บางครั้งอาจมีท้อบ้างแต่ไม่ท้อนาน ยังสู้ เพราะประเทศยังต้องการการพัฒนาและผลักดันอีกเยอะ คนยังต้องการการสนับสนุน และตนที่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เต็มที่ที่สุด ทุกคนต้องมีความหวังและได้รับโอกาสแน่นอน” นายกฯกล่าว