อังคณา จี้รัฐเปิดภาพ CCTV ระหว่างคุมชาวอุยกูร์กลับจีน ป้องกันทำผิด พ.ร.บ.อุ้มหาย-อนุสัญญา ICPPED ดีกว่าทุ่มงบพาสื่อบินไปสังเกตการณ์
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวทางแฟนเพจ Angkhana Neelapaijit ถึงการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีนว่า กรณี #ผู้ลี้ภัยอุยกูร์ รัฐมนตรีภูมิธรรม บอก “คนที่ตัดสินใจเรื่องนี้ มีผม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และไม่ได้ทำผิดอะไรเลย” ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดอะไรอยากบอกว่า แทนที่รัฐบาลจะด้อยค่าและตอบโต้นักสิทธิ อยากเห็นรัฐบาลเปิดเผยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เช่น
1.หากผู้ลี้ภัยอุยกูร์สมัครใจเดินทางกลับจีนจริง ทำไปพวกเขาจึงประท้วงด้วยการอดอาหาร (Hunger Strike) ในห้องกัก
2.แทนที่จะพาสื่อไปจีนให้สิ้นเปลืองงบประมาณ #รัฐควรเปิดเผยภาพ CCTV ใน สตม. สวนพลู และ #การบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องระหว่างการควบคุมตัวชาวอุยกูร์จากห้องกักจนถึงไปขึ้นเครื่องบิน โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตามมาตรา 22 ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 การใช้พันธนาการ รวมถึงกระบวนการทั้งหมดในช่วงการปฏิบัติการ มิเช่นนั้นจะถือว่ารัฐจงใจปกปิดชะตากรรมและทำให้บุคคลนั้นไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย เข้าข่ายการกระทำผิดฐานกระทำให้บุคคลสูญหายตามมาตราที่ 7 ของ พ.ร.บ. (นิยามการควบคุมเป็นตามนิยามในมาตรา 3) และอนุสัญญา ICPPED
3.รัฐบาลต้องตระหนักว่า #หลักการห้ามผลักดันบุคคลสู่อันตราย (Non-Refoulement) ผูกพันกับประเทศสมาชิกสหประชาชาติ เนื่องจากมีสถานะเป็นกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ (Customary International Law) หลักการห้ามผลักดันกลับ ใช้กับคนที่หากถูกส่งกลับไปยังประเทศต้นทางอาจได้รับอันตรายโดยไม่คำนึงถึงว่าบุคคลนั้นจะเป็นผู้ลี้ภัยหรือไม่