สุชาติ โต้ รักชนก ปม สปส.ซื้อตึก 7,000 ล้าน ยันไร้เอี่ยว ไม่รู้ใครเป็นเจ้าของ
จากกรณีที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าว “แฉเสียดฟ้า กองทุนประกันสังคมจงใจลงทุนผิดพลาด เพื่อเอื้อผลประโยชน์พวกพ้องหรือไม่” โดยมีการตั้งข้อสังเกตในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ย่านพระราม 9 ระบุว่าประกันสังคมซื้อมาในราคาประมาณ 7,000 ล้านบาท ในขณะที่ราคาประเมินอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท และมีการตั้งคำถามว่าเอื้อประโยชน์ใครหรือไม่นั้น โดย นายสหัสวัต ระบุว่า ผู้ที่เป็นเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในขณะนั้น คือ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปัจจุบันเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน และ นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรมว.แรงงาน ในช่วงนั้น และมีการส่งคนของตัวเองไปอยู่ในอนุกรรมการการลงทุนด้วย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีต รมว.แรงงาน กล่าวว่า ชี้แจงว่า ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม รัฐมนตรีไม่มีสิทธิเข้าไปยุ่งเกี่ยวแม้กระทั่งรับรู้ ไม่มีสิทธิไปแต่งตั้งบอร์ดต่างๆ จนเมื่อเลขาธิการ สปส. พิจารณาเสร็จแล้ว ตนถึงจะมีสิทธิลงนามเท่านั้น และไม่มีหน้าห้องนั่งอนุกรรมการลงทุน ส่วนที่บอกว่ามีคณะที่ปรึกษาไปนั่งนั้น ตนตั้งสหภาพแรงงานเป็นที่ปรึกษาเป็นร้อยคน ซึ่งคนที่ไปนั่งตรงนั้น เป็นบอร์ดก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งเป็นสิบปี เป็นบอร์ดมาแล้วไม่รู้กี่รอบ แล้วแบบนี้จะเกี่ยวอะไรกับตน
นายสุชาติกล่าวว่า ประเด็นที่ระบุว่าราคาประเมินอาคาร 3,000 ล้านบาท แล้วประกันสังคมไปซื้อในราคา 7,000 ล้านบาทนั้น จากการสอบถามคนที่เกี่ยวข้องกับการประเมินราคาทราบมาว่า ราคาประเมิน 3,000 ล้านบาท เป็นราคาประเมินตอนวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 แล้วคนที่ซื้อมาลงทุน มีการรีโนเวทอย่างไร ตนไม่รู้เรื่อง เนื่องจากการซื้อขายนั้นจะใช้การประเมินโดยบริษัทที่มีใบอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์เป็นผู้ประเมินรายได้ที่จะเข้ามา ซึ่งตนก็ไม่ทราบเพราะนไม่ได้อยู่ในบอร์ด ส่วนว่าทำไมไปซื้อผ่านกองทุนทรัสต์ ก็เนื่องจากว่าสำนักงานประกันสังคมไม่มีเจ้าหน้าที่ที่รู้เรื่องการบริหารการตลาด จึงต้องบริหารผ่านกองทุนทรัสต์
“จากการสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ได้รับคำตอบว่า เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 60% และมีการเช่าอยู่ 50% ส่วนทำไมถึงขาดทุน ก็เหมือนเรามีอพาร์ตเมนต์ ให้คนเช่าฟรีก่อน 2-3 เดือนแรก เป็นการทำการตลาดที่ช่วงแรกมีคนเช่าน้อย แต่ตอนนี้รายได้ที่เข้ามามันมีกำไรเป็นบวกหมดแล้ว ซึ่งประกันสังคมลงทุน เพื่อเอาผลตอบแทนรายปีที่มากกว่าการฝากธนาคารที่ได้ดอกเบี้ย 50 สตางค์ต่อปี แต่เอามาลงทุนตรงนี้ได้ผลตอบแทน 3-5% ต่อปี เพื่อเอาเงินมาเสริมสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนด้านต่างๆ ซึ่งประกันสังคมมีกรอบการลงทุน เพราะหากไปลงทุนเองตอนนี้ก็คงไม่ได้แล้ว เพราะค่าก่อสร้างขึ้นทุกปี อนาคตจะซื้อราคานี้ได้ไหม แล้วอีก 10 ปี ตึกราคาขึ้นไปเป็น 12,000 ล้านบาท ถามว่าได้กำไรทั้งตึก ทั้งผลตอบแทนไหม ส่วนคนพูดไม่ใช่นักลงทุน ไม่มีความรู้ แล้วก็มาโยงกับผม หรือเป็นเพราะเหตุผลทางการเมืองที่ผมต้องแข่งขันกับ นายสหัสวัต ที่จังหวัดชลบุรีหรือเปล่า” นายสุชาติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่าใครเป็นเจ้าของตึกดังกล่าว นายสุชาติกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะการซื้อตึก ซื้ออะไร รัฐมนตรีรู้ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้ารู้ก็จะมีปัญหาผิดกฎหมาย และตนก็ไม่ได้อยู่ในบอร์เด บอร์ดนั้นมีผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขาอาชีพ พูดด้วยความสัตย์จริงว่าไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของตึก รู้อย่างเดียวว่า เขาลงทุนไปแล้ว ผลตอบแทนได้เท่าไหร่ ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ประกันสังคมหรือไม่
เมื่อถามต่อว่า มีการตั้งคำถามว่า เจ้าของอาคารอาจจะมีความใกล้ชิดกับนักการเมือง รวมถึงตัวนายสุชาติเองด้วยหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่รู้จัก มาเช็กโทรศัพท์เลย หรือเช็กได้เลยว่าตนรู้จักเขาหรือเปล่า ยังไม่รู้เลยว่าเป็นใครจนถึงทุกวันนี้ แล้วบอร์ดลงทุนตนก็ยังไม่รู้เลยว่ามีใครบ้าง รู้อย่างเดียวว่าเป็นตัวแทนขององค์กรนี้ๆ นี่มันเป็นเรื่องการเมืองน้ำเน่า