ชูศักดิ์ รับตั้งรมต.-ขรก.การเมือง ต้องระวังเต็มที่ หลังศาลรธน.ไม่วินิจฉัยปมซื่อสัตย์สุจริต เหตุคนตั้งต้องรับผิดชอบ

ชูศักดิ์ รับต้องระวังเต็มที่ ตั้งรมต.-ขรก.การเมือง หลังศาลรธน. ไม่วินิจฉัยปมซื่อสัตย์สุจริต เหตุคนตั้งต้องรับผิดชอบ เชื่อ 17 มี.ค. รัฐสภาส่งตีความปมประชามติได้ เพราะเกิดความขัดแย้งแล้ว

เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 13 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัย การตีความเรื่องมาตรฐานจริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ว่า ศาลรัฐธรรมนูญตอบมาค่อนข้างชัดเจน ซึ่งจริงๆเราก็ทราบแนวทางของศาลพอสมควร แต่เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาจริงๆ ในแง่ของการตีความหลักสำคัญจะแต่งตั้งบุคคลใด ต้องเอาประวัติมาดู ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนถูกปรับในข้อหาจอดรถในที่ห้ามจอด ต้องถามสื่อมวลชนว่าถือว่าไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ เพราะฉะนั้นดุลพินิจกว้าง ซึ่งตามหลักนิติรัฐและนิติธรรม กฎหมายต้องมีความแน่นอนเราถึงพยายามทำเรื่องนี้ให้ชัด แต่ในเมื่อศาลไม่ตอบก็ไม่รู้จะทำอย่างไร และหลังจากนี้จะแต่งตั้งใครต้องใช้ดุลพินิจกันเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้จะตั้งใครต้องสุ่มเสี่ยงเองเลยใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จะว่าสุ่มเสี่ยงก็ได้ แต่ต้องใช่ความระวัดระวังเต็มที่ ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าต้องสแกนคุณสมบัติถี่ยิบเหมือนตั้งครม.แพทองธาร 1 ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาให้สำนักเลขาธิการครม. (สลน.) ตรวจสอบ สอบถามไปคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมันไม่จบเพราะเมื่อเป็นดุลยพินิจก็จะเป็นปัญหาตามมา ต้องชั่งน้ำหนักดู เมื่อถามว่าหากในอนาคตปรับครม. และเสนอชื่อใครแล้วสังคมตั้งคำถามจะทำอย่างไร นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งหมดต้องเอามาประมวลกันว่าใครคิดเห็นอย่างไรมาชั่งน้ำหนักเอาเพราะท้ายที่สุดคนที่ตั้งต้องรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่าต่อไปจะตั้งใครต้องมีประวัติใสกิ๊กเลยใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า หากพูดตรงไปตรงมา การเมืองบ้านเรามาแบบนี้ นักการเมืองก็ไม่ใช่นักบวช ขนาดพระยังมีข้อครหา ก็ต้องดูจนกว่าจะทำการเมืองให้ใสสะอาด เราก็เห็นกันอยูว่า เมื่อมาถึงจุดนี้เป็นอย่างไร เขาถึงเรียกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่า รัฐธรรมนูญปราบโกง แต่หลักสำคัญควรจะมีการกำหนดมาตรฐานชัดเจน ไม่เปิดโอกาสให้ตีความได้หลายทาง

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่าต้องไปหวังในการแก้รัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ต้องไปพูดคุยกันหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ตนไม่ได้หมายความว่าจะให้ลดมาตรฐานจริยธรรม แต่อยากให้ชัดเจน

เมื่อถามว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญส่งสัญญาณมาเช่นนี้ จะกระทบเหตุการณ์ในวันจันทร์ที่ 17 มีนาคม ที่รัฐสภาจะขอมติ ให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าต้องทำประชามติก่อนการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่แตกต่างกัน เนื่องจากประธานรัฐสภา บรรจุวาระ และเกิดความขัดแย้ง เนื่องจากสส.ส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วย โดยมองว่าประธานสภาฯไม่มีอำนาจบรรจุ และถือเป็นคนละกรณีกับกรณียื่นถามเรื่องมาตรฐานจริยธรรม พร้อมกับมองว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจจะรับวินิจฉัยเรื่องการทำประชามติ

ADVERTISMENT
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image