มงคล นำทีมลุยตรวจอาคารรัฐสภา ฝั่ง ส.ว. ยันไม่พบรอยร้าว ลั่น จันทร์นี้ทำงานได้ตามปกติ

มงคล นำส.ว.-วิศวกร ตรวจอาคารรัฐสภา ฝั่งส.ว. ไม่พบรอยร้าวที่อาจเกิดอันตราย ขอให้ข้าราชการมั่นใจ ลั่นจันทร์นี้ทำงานได้ตามปกติ เตรียมทำแผนอพยพแบ่งหน้าที่พรุ่งนี้ หวั่นเกิดเหตุซ้ำ

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่รัฐสภา นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยนายนพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกวุฒิสภาคนอื่นๆ นายปณิธิ พรหมสาขา ณ สกลนคร ตัวแทนจากวิศวกรรมสถาน พร้อมด้วยตัวแทนจากกรมโยธาธิการ และนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ร่วมตรวจสอบอาคารรัฐสภา ฝั่งวุฒิสภา รวมทั้งในห้องประชุมจันทรา (ห้องประชุมวุฒิสภา) ภายหลังจากมีเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา

ส.ว.

นายมงคลกล่าวภายหลังการตรวจสอบอาคารว่า จากการพูดคุยกับเลขาธิการวุฒิสภารวมถึง ส.ว.หลายคน สิ่งแรกที่ต้องทำคือความรับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สินของข้าราชการรัฐสภาและสมาชิกวุฒิสภาทุกคน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประชุมกันโดยในวันนี้เป็นการตรวจสอบอาคารว่าพร้อมที่จะใช้งานได้หรือไม่ และอำนวยความสะดวกให้ความปลอดภัยในการประชุมได้ 100% หรือไม่ โดยประสานกับ ส.ว.ทุกคนว่า หากไม่ติดภารกิจที่อื่นให้มาที่สภาทุกคน และหน่วยรักษาความปลอดภัยข้าราชการตำรวจสภา ฝ่ายอาคารสถานที่ให้รวมกันที่นี่เพื่อทำการตรวจสอบอาคาร ซึ่งเราจะดูในเรื่องของโครงสร้าง

ส.ว.

ADVERTISMENT

ประธานวุฒิสภากล่าวต่อว่า เมื่อตรวจสอบโครงสร้างอาคารอย่างละเอียดและแน่ใจแล้วว่าโครงสร้างของเราไม่มีอะไรเสียหาย การใช้อาคารสามารถใช้ได้อย่างดี และยังต้องตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เครื่องมือสื่อสาร เครื่องมือเตือนภัย เครื่องรักษาความปลอดภัย เครื่องมือเครื่องใช้ที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยที่ขาด เช่น หมวก เสื้อสะท้อนแสง ต้องไปซื้อมาด่วน วันจันทร์นี้ (31 มี.ค.) ต้องเรียบร้อย เราจะตรวจสอบทุกอย่าง ที่จะช่วยอำนวยความสะดวก ในการรักษาความปลอดภัย เช่น ทางหนีไฟ ไฟส่องสว่างเมื่อไฟดับอะไรจะเกิดขึ้น ตรงไหนจะสว่างบ้างก็ต้องตรวจสอบ และเมื่อตรวจสอบแล้วก็จะรู้ว่าอะไรที่เราขาด อะไรที่เราไม่ขาด แต่ต้องเติมอะไรบ้าง

ส.ว.

ADVERTISMENT

“พรุ่งนี้ (30 มี.ค.) จะมีการซักซ้อมและแบ่งหน้าที่การทำงานโดยเลขาธิการวุฒิสภา จะเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ วันนี้ต้องแบ่งงานให้เสร็จแล้วพรุ่งนี้ต้องเอาแต่ละส่วนมาประจำจุดต่างๆ ทำการซักซ้อม ในส่วนของผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและในวันประชุมคือวันจันทร์เราจะเข้าประจำจุดต่างๆ ที่เราเตรียมพร้อมไว้และทำความเข้าใจกับข้าราชการวุฒิสภาของเราและสมาชิกวุฒิสภาว่า เมื่อเกิดภัยขึ้นมาหรือเมื่อเกิดสัญญาณแจ้งเตือนขึ้นมาทุกคนจะทำหน้าที่ของตนเองและผู้รับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยก็จะพาทุกคนออกจากพื้นที่ให้ปลอดภัยที่สุด ให้ทุกคนออกจากอาคารด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงการซักซ้อมการปฐมพยาบาลด้วย” ประธานวุฒิสภากล่าว

ส.ว. นายมงคลยังกล่าวต่อว่า สำหรับจุดรวมพลที่สภาอยู่บริเวณหน้าอาคาร ซึ่งเป็นจุดรวมผลของหน่วยรักษาความปลอดภัยและมีกล้องวงจรปิดที่อำนวยความสะดวกครบ และวันนี้เราจะมีการซักซ้อม รวมถึงแบ่งหน้าที่กันด้วย ซึ่งหากมีการประชุม 2 สภาพร้อมกัน จะมีจำนวนคนที่ต้องอพยพ 4,000-5,000 คน กำลังที่จะช่วยเหลือเพียงพอที่จะรับมือกับภัยพิบัติได้ ซึ่งการอพยพคนหลายพันคนจะต้องมีการกำหนดจุดอพยพให้ชัดเจน และแบ่งหน้าที่ใคร ทำอะไร ทำที่ไหน ทำเมื่อไหร่ และทำอย่างไร

ส่วนจะมีการซ้อมร่วมกับฝั่ง ส.ส.หรือไม่นั้น นายมงคลกล่าวว่า พรุ่งนี้ (30 มี.ค.) เราจะซ้อมกันเองก่อน ยืนยันว่าวันจันทร์นี้ (31 มี.ค) สามารถทำงานได้ตามปกติ และหากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวอีก ก็พร้อมที่จะพาทุกคนออกจากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าเรามีความพร้อมที่จะประชุมในวันจันทร์ได้
ด้านนายนพดลกล่าวว่า จากการที่ทีมวิศวกรจาก มสธ.และกรมโยธาทั้ง 6 คนได้ไปตรวจสอบโครงสร้างในเบื้องต้นจากชั้นใต้ดิน B2 และขึ้นมาเรื่อยๆ เบื้องต้นยังไม่พบรอยร้าวที่จะนำไปสู่การเกิดโครงสร้างที่เสียหาย ซึ่งโครงสร้างวิศวกรรมส่วนใหญ่เสาเป็นสิ่งสำคัญมาก และคาน ซึ่ง 2 ส่วนนี้ มีบางจุดที่มีรอยร้าวอยู่บ้างแต่เป็นรอยร้าวที่ไม่ได้วิกฤตมาก ส่วนในเรื่องของคานยังไม่พบรอยร้าว นอกจากนี้สะพานเชื่อมระหว่างอาคารต่างๆ พบว่าไม่มีอะไรที่วิกฤตสิ่งบ่งชี้ว่าจะเกิดอันตราย ฉะนั้นเบื้องต้นเรื่องของโครงสร้างทั้งหมดอยู่ในขั้นที่ปลอดภัย แม้เจอรอยร้าวอยู่บ้างแต่สันนิษฐานได้ว่าเป็นรอยร้าวที่อาจจะเกิดก่อนเหตุการณ์แผ่นดินไหวก็ได้ เพราะฉะนั้นอาจจะต้องไปศึกษาในรายละเอียดเพิ่มขึ้น และเบื้องต้นมีความมั่นใจพอสมควรที่จะใช้อาคารแห่งนี้ในการประชุมต่อไป เพราะฉะนั้นคงไม่น่าจะหวั่นวิตกมากนักในเรื่องนี้ ซึ่งได้ไปตรวจสอบทุกจุดรวมถึงโรงพิมพ์ด้วยเพราะมีอุปกรณ์หนักก็มีรอยร้าวเกิดขึ้นบ้างแต่ไม่น่าจะใช่รอยร้าวที่เกิดจากภัยพิบัติ

ส.ว.

ขณะที่นายปณิธิกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าความเสียหายส่วนใหญ่ เกิดขึ้นจากงานสถาปัตยกรรมไม่ได้เกิดจากตัวโครงสร้าง ซึ่งสามารถปรับปรุงแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและไม่ก่อให้เกิดอันตรายอาจจะมีแค่บางส่วนที่ต้องกั้นพื้นที่เพื่อไม่ให้เศษวัสดุหล่นมาใส่ผู้ใช้อาคาร ทั้งนี้ โดยรวมอาคารนี้อยู่ในสภาพที่ดี และใช้ได้อย่างปลอดภัย ที่พบเศษวัสดุร่วงลงมาคือบริเวณจอดรถมอเตอร์ไซค์ชั้นใต้ดิน ที่พบว่าฉากผนังค่อนข้างบาง เวลาเกิดการเคลื่อนตัวก็มีสิทธิที่จะหลุดร่วงได้เป็นเรื่องปกติของงานสถาปัตย์ ยืนยันว่าไม่ร้าวถึงโครงสร้างแน่นอน และย้ำว่า ไม่มีจุดไหนที่น่ากังวลใจ และโครงสร้างของอาคารไม่ได้รับความเสียหายเพราะเดินตรวจสอบในทุกพื้นที่และในจุดที่วิกฤตก็ดูค่อนข้างละเอียดแล้วแต่ก็ไม่พบรอยร้าว แม้แต่ตรงลิฟต์คอร์ที่เป็นโครงสร้างที่รับแรงแผ่นดินไหว ก็ไม่เจอรอยร้าวเช่นกัน

ส.ว.

สำหรับ สัญญาณแจ้งเตือนภัย ที่มีเฉพาะเหตุไฟไหม้ แต่ในเหตุแผ่นดินไหวไม่มี จะต้องมีการป้องกันในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายปณิธิกล่าวว่า ถ้าถึงเวลาอพยพคน เราใช้สัญญาณเตือนไฟไหม้ก็ได้ เพราะจุดประสงค์คือต้องการอพยพคนออกจากอาคาร แม้ไม่ได้มีวิกฤตเหมือนไฟไหม้ แต่อาจจะใช้วิธีแมนนวลโดยการใช้สัญญาณไฟไหม้ได้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ง่ายที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image