เปิดแชทไลน์”โกตี๋”ส่งเบอร์โทร-ชื่อ “เป๊ปซี่” ประสานส่งของฝั่งลาว ผ่านเครือข่าย”ธีระชัย”

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการจับกุมนายหัดสะดี ทิพะสอน หรือ เป๊ปซี่ ชาวลาว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ที่ จ.หนองคายนั้น รายงานข่าวจากดีเอสไอพบข้อมูลว่ามีความเชื่อมโยงกับนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ ที่ติดต่อกับนายธีรชัย อุตรวิเชียร หรือ ระพิน 1 ใน 9 ผ้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ โดยนายหัดสะดี หรือเป๊ปซี่ จะเป็นคนดำเนินการรับของเครื่องเสียง ที่ทางนาธีระชัย ส่งไปให้นายวุฒิพงศ์ ที่สปป.ลาว โดยข้อมูลการติดต่อผ่านไลน์ มื่อวันที่ 27 ม.ค.60 ที่นายวุฒิพงศ์ ติดต่อกับนายธีรชัย ได้ส่งเบอร์โทรศัพท์ คนชื่อ เป๊ปซี่ ให้นายธีระชัย ซึ่งมีทั้งภาษาไทยและภาษาลาว

ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการคดีกับเครือข่ายของนายฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ ว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้มีจับกุมตัวนายหัดสะดี ทิพะสอน หรือ เป๊ปซี่ ชาวลาว ได้ที่ในเขตเมือง จ.หนองคาย เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามีความเชื่อมโยงกับนายวุฒิพงศ์ ซึ่งก็มีข้อมูลตรงกันในการติดต่อกับนายธีรชัย อุตรวิเชียร หรือ ระพิน 1 ใน 9 ผ้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดเป็นความเกี่ยวข้องกันและเราจะขยายผลต่อไป ซึ่งขณะนี้เราได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบปากคำแล้ว ทั้งนี้ เท่าที่ทราบข่าวตามสื่อ ก็จะเห็นว่าเขามีการรับสารภาพเองว่ามีการติดต่อ ส่งของให้นายวุฒิพงศ์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็ต้องไปดูว่าที่เขาให้การมาเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีหรือไม่ ส่วนอาวุธสงครามที่ตรวจค้นได้ก่อนหน้านี้ ขณะนี้มีเพียงปืน 1 กระบอก ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อปี 2553 ที่เหลือก็ต้องตรวจสอบต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงกรณีที่เป็นลังกระดาษ เป็นเครื่องเสียง พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า หลังจากมีการตรวจสอบข้อความสนทนาในแอพพลิเคชั่นไลน์ ก็จะพบว่าการติดต่อของนายธีรชัยกับกลุ่มนี้ มีการติดต่อกันจริง และหลายครั้งที่บางสื่อบอกว่าเรื่องนี้เป็นการจัดฉากนั้น ก็อยากให้เห็นชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การจัดฉาก มันมีข้อเท็จจริงอยู่ อีกทั้ง ตัวละครก็ดี ข้อมูลต่าง ๆ ก็ดี มันเป็นข้อเท็จจริงที่เราตรวจสอบพบ และตัวเขาก็รับเองว่ามีการติดต่อกันจริง ส่วนจะมีการส่งเครื่องเสียงและอาวุธกันจริงหรือไม่นั้น ในการตรวจสอบก็จะต้องตรวจสอบต่อไป แต่ในข้อเท็จจริงหลังจากมีการตรวจค้น บางสื่อบางฉบับก็พูดกันว่าเป็นการจัดฉาก ดังนั้น ตรงนี้เจ้าหน้าที่ก็ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าการจับกุมครั้งนี้มีหลักฐานจริง และเป็นการสืบสวนขยายผลจริง

ถามถึงในส่วนของนายวุฒิพงศ์จะมีการประสานกับต่างประเทศอย่างไรบ้าง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า เราจะต้องประสานอยู่แล้ว อีกทั้ง คดีนี้ก็ต้องมีหมายจับเพิ่มเติม ซึ่งเดิมเรามีหมายจับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อยู่แล้ว ที่ดำเนินการอยู่ แต่พอเรื่องนี้หากสามารถออกหมายจับได้ ก็จะต้องมีการประสานต่อไป ส่วนที่มีข่าวว่านายวุฒิพงศ์เดินทางออกจาก สปป.ลาว ไปแล้วนั้น ทางการข่าวก็ยังต้องพิสูจน์ทราบว่าจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากทราบที่อยู่ที่ชัดเจนแล้ว ทางเราก็คงจะต้องมีการประสานต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image