นายกฯ เป็นประธานลงนามความร่วมมือการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ชี้เป็นคนดี เพื่อประเทศชาติที่ดีเดินหน้าได้ อย่ามัวแต่สงสัยว่าทำอย่างไรถึงจะดี
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 30 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมมอบนโยบายการบูรณาการความร่วมมือการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต กลุ่มเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ ซึ่งตั้งเป้าหมาย “เด็กไทยเติบใหญ่มีคุณภาพ ผู้สูงวัยเป็นหลักชัยของสังคม มุ่งสู่ประเทศไทย 4.0” ภายในปี 2564
โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า มาวันนี้เหมือนมาทำสัญญาสงบศึก หรือสัญญาปรองดอง แต่เป็นเรื่องการทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าให้ได้ อย่างไรก็ตามวันนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งในอีก 6 ปีขึ้นหน้า ผู้สูงอายุจะมีจำนวนมาก เราจึงต้องเตรียมความพร้อมให้ได้มากที่สุด และเตรียมมาตรการรองรับโดยเฉพาะด้านสาธารณสุข สังคมของประเทศประกอบด้วยคนหลายส่วนหลายฝ่าย เราจึงจำเป็นต้องบูรณาการประเทศ บูรณาการทางความคิดให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก การบูรณาการกลุ่มคน ทั้งด้านการศึกษา อาชีพ รายได้ การสาธารณสุข เพื่อให้สอดคล้องกับการยุทธศาสตร์ประเทศ ทุกคนจึงต้องมีส่วนร่วมด้วยกัน รัฐบาลมีหน้าที่กำหนดกรอบนโยบายในการอนุมัติโครงการ และงบประมาณต่าง ๆ ผู้ปฏิบัติก็ต้องทำหน้าที่อีกด้านควบคู่กันไป ถือเป็นการทำงานในลักษณะประชารัฐ แต่ถ้าทุกคนยังร่วมมือกันไม่ได้ ปัญหาก็เป็นเช่นเดิม การทำงานก็เป็นชิ้นๆ เหมือนเดิม ดีเป็นบางส่วน บางส่วนยังบกพร่อง เราต้องทำให้ประเทศไทยเป็นสังคมที่ปลอดภัย และแข็งแรง ปราศจากสิ่งไม่ดี
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันเจตนารมณ์และความมุ่งมั่น พร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวง และผู้ปฏิบัติที่จะให้การดำเนินนโยบายเป็นไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน และจะเห็นได้ว่าการทำงานทุกวันนี้ของรัฐบาล อยู่ภายในกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ทั้ง 6 ด้านที่มีกระบวนการยุติธรรมเข้าไปเกี่ยวข้อง การทำงานจะต้องตั้งผลสัมฤทธิ์ไว้ข้างหน้าถึงจะบรรลุเป้าหมาย แต่ถ้ามัวใช้นโยบายไม่มีแนวทางที่ชัดเจนก็จะไปไม่ได้ ทุกอย่างต้องมีหลักเกณฑ์ว่าแต่ละเรื่องควรต้องทำงานอย่างไร และทุกงานย่อมมีอุปสรรคซึ่งเราต้องแก้ปัญหาร่วมกันให้ได้ รัฐบาลเองทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดการปฏิรูป ทั้งการสร้างความเข้าใจด้วยความอดทน มีเหตุผลอธิบายได้ แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด เพราะต้องยอมรับว่าเรามีคนหลายพวก หลายฝ่าย หลายกลุ่ม ความคิดเห็นมีอิสระ หลายอย่างอาจคิดไม่ตรงกัน ซึ่งต้องหาวิธีการ โดยบางอย่างอาจต้องใช้เวลา และทุกคนก็ต้องยอมรับไม่ใช่ว่าอยากได้ทุกอย่างมาก ๆ ในเวลาเดียวกัน เราต้องร่วมมือกันสร้างสันติสุขให้ได้โดยเร็ว
“เราต้องช่วยกันสร้างเด็กให้เป็นคนดี แต่วันนี้หลายคนยังมีปัญหากับความว่าการเป็นคนดี และจะดีอย่างไรแล้วเป็นอย่างไรคนดี แบบนี้เขาเรียกว่า ศรีธนญชัย มาบอกว่าไม่รู้ว่าดีอย่างไร คนดีก็คือคนที่ไม่โกง ไม่ทุจริต เป็นคนสุจริต มีคุณธรรม จริยธรรม มีจรรยาบรรณ ซึ่งผมไม่เห็นมันจะยากตรงไหนเลย มีการเผื่อแผ่แบ่งปัน มีหลักคิด เหล่านี้ถือว่าเป็นคนดี ถ้ามัวแต่หาคำตอบสงสัยว่าคนดียังสงสัยกันอยู่ อย่างนี้มันไปกันไม่ได้ ทุกคนต้องรู้ว่าคนดีเป็นอย่างไร ถ้าเราดีทุกคนดี สังคมดี ประเทศชาติก็จะดี และเดินหน้าไปได้ โดยเราต้องเริ่มสร้างที่เด็กมาก่อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว”