วิษณุแจงปมจดหมายน้อย แค่เกษียณหนังสือส่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยันไม่ผิดกฎหมายไม่ผิดศีลธรรม
เมื่อเวลา 16:00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีเพจชื่อดังเปิดเผยจดหมายน้อยที่นายวิษณุเขียนถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ และที่เขียนไปนั้นไม่ได้ถือเป็นจดหมายน้อย แต่ข้อความอาจจะเหมือนกับเป็นการเขียนจดหมายน้อย แต่สิ่งนั้นคือการเขียนแทงเกษียณหนังสือต่อท้ายจดหมายหรือหนังสืออีกหลายหน้ากระดาษ จากกรณีที่ภรรยาและบุตรของผู้ต้องขังซึ่งเป็นนายกสมาคมเกี่ยวกับกล้วยไม้ที่ได้มาพบตน ตามที่มีคนแนะนำให้เขามาร้องเรียนที่ตน และจากการที่ได้พบพูดคุยและไต่สวนความแล้ว ตนยังได้โทรศัพท์ไปสอบถามจากผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับข้อความว่าตรวจสอบพบแล้วว่านักโทษคนดังกล่าวศาลได้ตัดสินลงโทษจำคุก และได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้วซึ่งขณะนี้เหลือโทษ 2 ปี และขณะนี้รับโทษไปแล้ว 1 ปีเศษทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย พระราชบัญญัติที่ให้มีการพักการลงโทษซึ่งระบุว่าหากนักโทษได้รับโทษเกินกึ่งหนึ่ง และเป็นนักโทษชั้นดีก็อยู่ในข่ายที่จะได้รับการพักการลงโทษ ซึ่งหมายความว่ายังมีโทษอยู่แต่สามารถออกมาอยู่ข้างนอกได้ ไม่ใช่การปล่อยตัว มีการทำเช่นนี้มาแล้วหลายคน และรายนี้ก็อยู่ในข่าย ซึ่งเมื่อภรรยาและบุตรของเค้ามาร้องตนก็ได้ให้ไปร้องต่ออธิบดีกรมราชทัณฑ์ซึ่งตนได้ส่งหนังสือและได้แนบเอกสารดังกล่าวแนบท้ายไปด้วย โดยให้เขาถือหนังสือดังกล่าวไปหาอธิบดีกรมราชทัณฑ์เอง ซึ่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็บอกว่าอยู่ในเกณฑ์เพราะนักโทษคนนี้ถือเป็นนักโทษชั้นดีเยี่ยม รับโทษมาเกินกึ่งหนึ่งแล้ว ขณะเดียวกันเป็นนักโทษที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพอยู่ในโรงพยาบาลมาตลอดจึงสามารถพักโทษได้ตามเกณฑ์ ซึ่งทางคณะกรรมการพิจารณาพักโทษจะได้พิจารณาในเร็วๆ นี้ เท่าที่ทราบน่าจะประมาณต้นเดือนมีนาคม
นายวิษณุกล่าวว่า นักโทษคนดังกล่าวตนไม่เคยรู้จักและไม่เคยพบหน้ากัน ได้ทราบจากภรรยาและบุตรเขาว่า เป็นนายกสมาคมเกี่ยวกับงานกล้วยไม้ระดับชาติ ซึ่งเป็นคนที่นำกล้วยไม้มาประดับประดาที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ต้องโทษเนื่องจากให้การเท็จ และในเร็วๆ นี้จะมีการจัดงานกล้วยไม้ระดับชาติจึงจำเป็นที่จะต้องนำตัวออกมา ซึ่งเนื้อความต่างๆ เหล่านี้ก็อยู่ในจดหมายร้องเรียนที่ตนให้ถือจดหมายดังกล่าวไปหาอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งในตอนท้ายที่ตนเกษียณยังได้ระบุว่าหากกฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ และได้คุยโทรศัพท์กับอธิบดีด้วยว่าหากกฎหมายไม่เปิดช่องก็ไม่ต้องทำอะไร ซึ่งทราบว่าเคยมีคนได้รับการพักโทษอย่างนี้มาจำนวนมากตามระเบียบกฎหมายและคราวนี้ก็จะมีการพิจารณาโดยคณะกรรมการอีกจำนวนมาก และตนยังบอกกับเจ้าทุกข์เลยว่าก็อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการพักโทษอยู่แล้วซึ่งทางญาติเขายังบอกด้วยว่าไม่ทราบว่ามีรายชื่ออยู่ด้วยแต่ก็กลัวจะตกขบวน
นายวิษณุกล่าวว่า นี่ไม่ใช่การแทรกแซงหรือไม่ใช่การสั่งใดๆ แต่มีผู้ใหญ่คนหนึ่งแนะนำให้เขามาร้องกับตนเนื่องจากเป็นรองนายกฯกำกับดูแลงานของกระทรวงยุติธรรม และตนได้ให้ไปพูดคุยกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์เอง อย่างไรก็ตาม หากมีผู้เดือดร้อนต้องการมาร้องเรียนที่ตนก็สามารถมาได้แต่จะช่วยได้หรือไม่คงต้องแล้วแต่หลักเกณฑ์ และรายนี้ไม่ใช่รายแรก แต่หลายรายก็ทำไม่ได้เพราะเมื่อตรวจสอบกับต้นตอแล้วพบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ไม่ถูกต้อง
“เป็นการเกษียณท้ายหนังสือร้องเรียนธรรมดา ผมมีสติสัมปชัญญะรับผิดชอบ และเรื่องนี้รู้ว่าไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรม จึงยินดีและเต็มใจไม่มีปัญหา และเอกสารดังกล่าวก็ไม่ได้ถือเป็นเรื่องลับแต่อย่างใด ถึงได้ให้เค้าถือหนังสือไปเอง ไม่ได้ออกเป็นหนังสือราชการ และจะหลุดออกมาในโลกโซเชียลอย่างไรผมก็ไม่ได้มีปัญหา ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติใดๆ ไม่รู้สึกตื่นเต้น คนทำให้หลุดออกมาจะเป็นใครก็แล้วแต่เขา และถ้าใครจะมาร้องเรียนที่ผมก็มาได้เลย เพราะรายนี้ก็ไม่ใช่หลายแรก มาหลายรายแล้วเพียงแต่บางเรื่องผมไม่สามารถช่วยอะไรได้ ตัวอย่างเช่น มีอยู่รายหนึ่ง เป็นตำรวจถูกให้ออกจากราชการแล้วจะขอกลับเข้ารับราชการใหม่ ซึ่งผมก็เขียนไปว่าให้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณา เป็นไปตามสายงานเพราะผมไม่มีความเห็นในเรื่องนี้เนื่องจากไม่รู้ว่าเค้าผิดหรือไม่ผิด หรืออย่างรายกล้วยไม้นี้ถ้าเขามาขอพระราชทานอภัยโทษผมก็จะไม่ทำอะไรทั้งสิ้น แต่การพักการลงโทษนี้เป็นไปตามกฎหมายขอให้เป็นไปตามข้อแม้คือรับโทษมาแล้วเกินกึ่งหนึ่งและเป็นนักโทษชั้นดีเยี่ยม ซึ่งเขาก็จะได้รับอยู่แล้วไม่ได้มีปัญหา ผมเจอมาเยอะและไม่ได้รู้สึกเดือดร้อน”
นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องการขอความเป็นธรรมที่เกี่ยวข้องกับกฎ ก.พ.นั้นมีอยู่หลายเรื่องและบ่อยครั้งเช่นขณะนี้มีอีก 3 เรื่องที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของตน แต่เป็นเรื่องที่เปิดเผยไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่พอสมควรโดยเป็นข้าราชการระดับสูงที่ขอความเป็นธรรม ที่กำลังไต่สวนอยู่แต่เจ้าตัวอ้างว่าไม่ผิด จึงขอความเป็นธรรมเข้ามา ทั้งนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้แต่ไม่ใช่รายชื่อที่ถูกพักงาน ไปโดยศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)
