09.00 INDEX วังเวง หวังเหวิด ปฏิบัติการข่าว ปฏิบัติการข่าว รถหรู รถโบราณ

ยิ่งผ่านสถานการณ์ “รถหรู” ยิ่งผ่านสถานการณ์การโยง “สมเด็จช่วง”เข้าไปเป็นเนื้อเดียวกันกับ “พระธัมมชโย”
ยิ่งก่อสภาพ “หวาดเสียว”

คำถามที่เสนอเข้ามาอย่างหนักแน่น และจริงจัง มากยิ่งขึ้นเป็นลำดับมากด้วยความแหลมคม

เป็น “คำถาม” ที่ว่า “คุ้ม” หรือไม่

หากกลยุทธ์ว่าด้วย “รถหรู” เป็นส่วนหนึ่งของแผน “ปฏิบัติการข่าว” หรือที่เรียกย่อๆ ว่า IO

Advertisement

ก็ต้องถามว่า “เวิร์ก” ไหม

พลันที่มีการขยายวงจาก “รถหรู” วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ไปยัง “รถหรู” วัดไผ่ล้อม นครปฐม
ยิ่งเท่ากับ “เปิดโปง”

เป้าหมายอาจต้องการเปิดโปง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป้าหมายอาจต้องการเปิดโปง พระครูปลัดสิทธิวัฒน์
แต่เอาเข้าจริงๆ กลับ “ไม่ใช่”

Advertisement

ที่เข้าใจในเบื้องต้นว่าเป็น “รถหรู” กลายเป็น “รถโบราณ” กลับกลายเป็นรถที่แทบจะเหลือแต่ “ซาก”
เสมอเป็นเพียง “ตั้งโชว์”

1 ภาพอันเคยโอ่อ่าอลังการไม่ว่ามองผ่านยี่ห้อ “เบนซ์” ไม่ว่าจะมองผ่านยี่ห้อ”แพนเธอร์”

ได้กลายเป็น “อดีต” อันแสนไกล

ขณะเดียวกัน 1 ตำแหน่งแห่งหนของรถมิได้อยู่บนท้องถนน หากแต่สถิตอยู่ภายใน “พิพิธภัณฑ์”

ดำรงอยู่ในจุดแห่ง “วิทยาทาน”

ยิ่งกว่านั้น ยังเสนอ “คำถาม” ไปถึงบทบาทและมาตรฐานของ “กรมสอบสวนคดีพิเศษ”
โดยเฉพาะ “สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ”

ถึง “รถหรู” อีกกว่า 5,000 คันเล่า

ที่เคยอึกทึกครึกโครม เป็นข่าวพาดหัวตั้งแต่เมื่อปี 2556 หายจ้อยไปอยู่ ณ หลืบซอกใด หรือเหลือ”รถหรู”เพียง 2 คันเท่านั้น

คัน 1 ตั้งโชว์ ณ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คัน 1 ตั้งโชว์ ณ วัดไผ่ล้อม นครปฐม อีก 5,000 กว่าคัน

มองไม่เห็น ไม่ปรากฏเป็น”ข่าว”

สภาพที่สัมผัสได้ผ่าน “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” เป็นสภาพที่มีการแถลงอย่างขึงขังแทบจะทุกวัน แต่มิได้มี “อะไร” ในลักษณะ “คืบหน้า”
ความคืบหน้าในที่นี้ก็คือ ความผิดในเรื่องการนำเข้า ความผิดในเรื่องการจดประกอบ

เกี่ยวอะไรกับ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์

ท่านมี “ความผิด” อย่างที่เจ้าหน้าที่น้อยใหญ่ภายใน “กรมสอบสวนคดีพิเศษ”ออกมานั่งโต๊ะแถลงหรือไม่

หรือเสมอเป็นเพียงการวิ่งวนๆ ไปโดยรอบอย่างที่สำนวนจีนบอกว่า “ขี่ม้าชมสวน” หรืออย่างที่สำนวนลาวบอกว่า

“เลียบเลาะแคมห้วย”

กรมสอบสวนคดีพิเศษระบุ จะใช้เวลาพิสูจน์ทราบ 2-3 เดือน

เวลา 2-3 เดือนที่ว่านี้จะเป็นการพิสูจน์ทราบอะไร พิสูจน์ทราบที่มาของ “รถ” พิสูจน์ทราบ “การจดประกอบ”รถ

คำถามก็คือ แล้วเป็น”ความผิด”ของ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อย่างไร

ในเมื่อรถที่ว่านี้แม้จะเป็นรถหรูในกาลอดีต แต่สถานะและความเป็นจริงได้อยู่ในฐานะของ

“รถโบราณ”ที่อยู่ใน “พิพิธภัณฑ์” เมื่อได้มาก็มิได้เอาไป “ขับ” มิได้เอาไป “นั่ง”

จาริกไปตามสถานที่ต่างๆ หากเสมอเป็นเพียงตั้ง “โชว์” เพื่อเป็น “ความรู้”

ดำรงอยู่ในสถานะและบทบาทอันเป็น “วิทยาทาน” เหมือนพิพิธภัณฑสถานโดยทั่วไป

ยิ่งทอดระยะเวลา “นาน” ยิ่งจะกลายเป็น “ปัญหา”

เป็นปัญหาพันไปยัง นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เป็นปํญหาพันไปยัง นายวิษณุ เครืองาม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image