กฤษฎิ์ เปิดใจแยกทาง “พรรคประชาชน” เผยสารพัดแรงกดดัน หลังแสดงจุดยืนเรื่องสถาบันกลางสภา แฉพรรคเน้นสร้างกระแส ไม่เน้นช่วยคน ด้าน ด้อมส้ม บุกสภาด่ากราด
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ส.ส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน แถลงถึงกรณีที่ประกาศแยกทางกับพรรคประชาชน เตรียมย้ายซบพรรคกล้าธรรมว่า ตนลำบากใจที่จะมาขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชน เพราะไม่อยากทำงานร่วมกับพรรคอื่นแล้วสังกัดอยู่ในพรรคเดิม อย่างนั้นคือ “งูเห่า” ชัดเจน ที่ทำงานกับพรรคเดิมไม่ได้เพราะอุดมการณ์และแนวทางการทำงานต่างกัน ตนกล้าที่จะออกมาพูดว่าขอให้พรรคขับตนเองออก เนื่องจากได้ยื่นหนังสือให้กับพรรคตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว
น.ส.กฤษฎิ์กล่าวต่อว่า เหตุที่เลือกแถลงหลังวันที่ 11 พ.ค.68 เพราะตนสนับสนุนทีมเลือกตั้งเทศบาล ไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวมากระทบกับพรรค ส่วนสาเหตุยุติบทบาท เนื่องจากพรรคมีเป้าหมายเน้นสร้างพรรค ไม่ได้เน้นสร้างคน เรื่องที่พรรคสนใจแก้ปัญหาการทำงานจึงเป็นประเด็นการสร้างกระแส สร้างความนิยมให้กับพรรคเป็นหลัก โดยไม่ได้มุ่งเน้นผลประโยชน์ประชาชน ทำให้ตนเองไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้
น.ส.กฤษฎิ์กล่าวว่า ตนเป็น ส.ส.เขตเป้าหมายสำคัญที่สุดคือ การแก้ปัญหาในพื้นที่ การผลักดันเรื่องที่เป็นปัญหาในพื้นที่เข้าสู่พรรค แต่ก็ไม่เคยได้รับการสนับสนุนอย่างที่ควร ทำให้ไม่สามารถร่วมงานกับพรรคได้ มีการพูดไม่ให้เกียรติ ไม่เคารพในสถานะทางเพศมีการปล่อยข่าวเรื่อยๆ ว่าตนเป็นงูเห่า ทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของพรรค ทั้งการยุบพรรค หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ประชาชนในเขตต้องโทรมาหาทุกครั้งว่าตนเป็นอย่างนั้นหรือไม่ แต่เวลาก็พิสูจน์แล้วว่าตนไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตนเองเสียใจที่ต้องมายุติบทบาทในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ น.ส.กฤษฎิ์แถลงนั้นประชาชนที่ร่วมรับฟังได้ตะโกนว่า “แน่จริงก็ลาออก ลองลงสมัครรับเลือกตั้งโดยไม่สังกัดพรรคที่คุณอยู่ พรรคประชาชนไม่ใช่ที่ที่จะให้คุณมาชุบตัว คุณเป็นงูเห่า”
น.ส.กฤษฎิ์จึงกล่าวว่า ขอให้อยู่ในความสงบ แล้วค่อยคุยกัน ถ้าไม่มีอะไรอย่าส่งเสียง ก่อนจะกล่าวต่อว่าเป้าหมายในการทำงานของตนตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ส่วนที่ว่าทำไมถึงไม่ลาออก เพราะการลาออกจะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ ต้องเลือกตั้งใหม่ หรือต้องทำเพื่อความสะใจเพื่อ ทำให้ตนเองเท่ แต่มันไร้สาระ เพราะต้องการทำหน้าที่ ส.ส.ตามที่ประชาชนคาดหวัง ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้มีปัญหากับตน ขอให้ลองไปสอบถามคนที่ติดตามการทำงานของตนดูว่าเป็นอย่างไร
น.ส.กฤษฎิ์กล่าวว่า สำหรับประเด็นแตกหัก นอกจากปัญหาการทำงานในส่วนจังหวัดที่มีปัญหามาโดยตลอดแล้ว ยังมีเรื่องร้องเรียนที่ร้องเรียนไปที่พรรค แต่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาตามกระบวนการและขั้นตอน การทำงานในสภา การยื่นประเด็นไม่ได้รับการตอบรับให้ตั้งเป็นประเด็นในคณะกรรมาธิการ
สุดท้ายที่เป็นประเด็นแตกหักคือการที่ตนอภิปรายขอบคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราโชบายที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำบนเกาะสีชัง ทั้งนี้ได้ขออนุญาตเป็นตัวแทนราษฎรในการเข้าเฝ้าฯ และขอให้กระทรวงมหาดไทยทำงบประมาณเพื่อวางท่อประปาต่อน้ำจากเกาะสีชังเพื่อไปยังอ่างเก็บน้ำ แต่เมื่อตนหารือจบก็มี ส.ส.ท่านหนึ่งมาต่อว่าว่าเหมาะสมหรือไม่ที่พูดเช่นนี้
ตนจึงยืนยันว่าเหมาะสม เรื่องนี้เป็นผลกระทบกับตนตลอดมา พรรคมีการต่อว่าเนื่องจากเป็นเพื่อน ส.ส.ส่วนมากไม่พอใจกับการที่ตนหารือในวันนั้น เพื่อน ส.ส.ไม่กล้าคุยด้วยนานๆ เพราะกลัวว่าจะเป็นการวางตัวไม่เหมาะสม กลัวพรรคไม่ส่งลงสมัครในครั้งต่อไป และยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่อยากอธิบาย
น.ส.กฤษฎิ์กล่าวว่า ส่วนที่บอกว่าตนจะเข้ามากอบโกยนั้น น.ส.กฤษฎิ์ระบุว่า ต้องถามว่าตนกอบโกยอะไร ตั้งแต่เลือกตั้งว่าใน จ.ชลบุรี มีใครทุ่มกำลังทรัพย์ ตั้งสำนักงาน ซื้อสำนักงานเพื่อให้ประชาชนขี่มอเตอร์ไซค์มาพบปะได้สะดวก ให้เด็กๆ ได้เรียนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษในช่วงปิดเทอม เงินภาษีที่พ่อแม่ประชาชนที่โอนให้กับพรรค ตนไม่เคยได้ใช้สักบาท ไม่เคยตัดเงินจากพรรคมาทำกิจกรรมในพื้นที่ ทั้งนี้เรื่องความหวังของประชาชน ตนเองเข้าใจ เพราะตนเคยมีความหวังว่าพรรคจะเป็นความหวังเดียวที่เปลี่ยนแปลงประเทศชาติได้ แต่เมื่อเข้ามาแล้วกลับผลักดันอะไรไม่ได้ ฉะนั้นความผิดหวังที่มีอยู่ในใจมากมาย จึงเป็นเหตุให้ตนเองทำหนังสือยุติบทบาทกับพรรค
หลังจากนั้นพรรคได้เรียกตนไปคุยว่าจะมีการแก้ไขเรื่องต่างๆ ตนจึงบอกว่าการแก้ไขไม่ได้ช่วยอะไรเพราะเลยเวลาที่จะแก้ไปแล้ว จึงเรียกร้องให้พรรคขับตนเองออกเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ปวงชน จะได้ไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนชาวศรีราชาอย่างที่ตั้งใจไว้อย่างแท้จริง
น.ส.กฤษฎิ์กล่าวถึงประเด็นที่เลือกพรรคกล้าธรรม โดยระบุว่า ตนได้ประสานงานกับรัฐมนตรีหลายคน ในการทำงานในพื้นที่ ซึ่งได้รับการตอบรับจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยแก้ไขปัญหาให้ประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งประชาชนที่ชลบุรีมองว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญในการเปิดอ่างเก็บน้ำ การจะเลือกพรรคไหนต้องเลือกพรรคที่สนับสนุนการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง สำหรับการร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมนั้น
วันนี้จะไปขอใบสมัครพรรคกล้าธรรมไว้ก่อน เพื่อรอการขับออกจากพรรคประชาชน ส่วนกระแสข่าวที่มีการเสนอเงิน 55 ล้านบาท เงินเดือน 250,000 บาทและรถตู้หรูนั้น ขอให้ไปถามคนที่พูดออกมา พร้อมยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีการเสนอให้ร่วมงานกับพรรค ย้ำว่าตนเองใช้เวลานานในการตัดสินใจ
ส่วนเรื่องการถามความเห็นของประชาชนในพื้นที่ ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะออกจากพรรคประชาชน แต่เป็นเหตุด่วน จึงไม่ได้มีการสอบถามความเห็นประชาชน แต่อยากบอกว่ามันมีเหตุจะต้องออก
น.ส.กฤษฎิ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเรื่องอุดมการณ์การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยระบุว่าไม่อยากพูดถึง เพราะไม่ได้มุ่งไปในประเด็นนี้ ส่วนการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการจบชีวิตทางการเมืองหรือไม่ ความจริงตั้งใจจะลาออก แต่เมื่อดูสถานการณ์หลายอย่าง ไม่รู้ว่าจะยุบสภาในวันสองวันนี้หรือไม่ ก็ไม่รู้ว่าจะลาออกให้เสียงบเลือกตั้งใหม่ทำไม ซึ่งก็ยังยืนยันว่าตอนนี้จะทำงานให้พี่น้องประชาชน ส่วนการเลือกตั้งสมัยหน้า เดี๋ยวเอาไว้ว่ากัน
ผู้สื่อข่าวถามทิ้งท้ายว่า การขอใบสมัครพรรคกล้าธรรม ได้ปรึกษา กกต.หรือไม่ น.ส.กฤษฎิ์ระบุสั้นๆ ว่า “ขอเอาไว้เฉยๆ” จากนั้นเดินออกจากเวทีแถลงข่าว ผ่านประตูด้านข้างของห้องแถลงข่าว เพื่อหลีกเลี่ยงประชาชนที่มาประท้วง
สำหรับบรรยากาศก่อนการแถลงข่าว มี ส.ส.พรรคประชาชนลงมาสังเกตการณ์ คือ นายปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงประชาชนที่มารอสังเกตการณ์ ก่อนรุมต่อว่า น.ส.กฤษฎิ์ว่า คนเขาเลือกคุณในนามพรรค ตามโนยบายของพรรคประชาชน ไม่ใช่ที่ชุบตัวของคุณ ชุบตัวเพื่อเอาประโยชน์ส่วนตน
ช่วงหนึ่ง ประชาชนได้ยืนประจันหน้ากับ น.ส.กฤษฎิ์ ที่ยืนอยู่บนโพเดียมว่า ประชาชนเลือกคุณมา ที่จริงถ้าคุณจะขายตัวเป็นงูเห่า เงิน 55 ล้าน มันไม่น่าใช่ของคุณ มันต้องนำมาให้ประชาชนที่เขาลำบาก เลือกคุณเข้ามา ซึ่ง น.ส.กฤษฎิ์ตอบกลับว่า ตอนนี้ตนมีอยู่บาทเดียวในตัว
ทำให้เกิดความชุลมุน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสภาต้องเข้ามาควบคุม และขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่ในความสงบ โดยประชาชนก็ได้ตะโกนแทรก ตลอดการแถลงข่าวของ น.ส.กฤษฎิ์เป็นระยะ
ช่วงท้าย การแถลงข่าว น.ส.กฤษฎิ์ได้เลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มประชาชน โดยการหลบเดินออกทางประตูข้างห้องแถลงเชื่อมขึ้นไปยังบนอาคารรัฐสภาทันที โดยประชาชนได้วิ่งไปดักบริเวณทางออก แต่ไม่พบตัว น.ส.กฤษฎิ์ จึงกล่าวว่า “หนีทำไม เสียงบประมาณภาษีประชาชน ลาออกไป ประชาชนแค้น วางแผนไปกับธรรมนัสมานานแล้ว พูดอะไร ชงธรรมนัสตลอด ขอฝากไปถึงผู้กองธรรมนัส คุณคิดดีแล้วเหรอ คุณจะรับ ส.ส.ที่ไม่ซื่อไม่ตรง เขาหักหลังประชาชนได้ เขาก็หักหลังคุณได้” ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีประชาชนรายหนึ่ง เดินตาม น.ส.กฤษฎิ์ เพื่อต่อว่าตลอดทาง