เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 5 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวภายหลังการประชุมการเตรียมออกกฎหมายให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ครั้งที่ 1/2560 ว่า ที่ประชุมได้พูดคุยกัน 2 เรื่องใหญ่ๆคือ เรื่องแรกคือเมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว จะมีกฎหมายของแต่ละกระทรวงที่ต้องออกมีอะไร ทำอย่างไรบ้าง และถ้าออกกฎหมายแล้วจะต้องกำเนินการต่อไปอย่างไร ซึ่งเรื่องกฎหมายลูกเป็นหน้าที่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) โดยขณะนี้ทุกกระทรวงมีความชัดเจนเรื่องกฎหมายแล้ว เรื่องที่สองคือการพูดคุยถึง มาตรา 77 ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเกี่ยวข้องกับแนวนโยบายแห่งรัฐ ซึ่งต่อไปนี้การออกกฎหมายจะต้องแบ่งเป็น 4 ช่วง ทั้งนี้ก่อนการออกกฎหมาย จะต้องมีการตรวจสอบลำดับความสำคัญ และยังครอบคลุมไปถึง เมื่อหลังประกาศใช้กฎหมายแล้ว ยังจะมีการทบทวนผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายๆนั้นด้วย โดยจะสอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาการทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. 2558 ที่มีอยู่แล้ว ถ้ากฎหมายไม่จำเป็น ไม่ทันสมัยก็สามารถยกเลิกได้ เพื่อทำให้ทันสมัย นี่คือ 2 ใหญ่ๆที่ประชุมกันวันนี้
นายชาญเชาวน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม จะรับผิดชอบการติดตามความคืบหน้าของแต่ละกระทรวงทุกวันที่ 30 ของเดือน โดยทุกกระทรวจะต้องแจ้งความคืบหน้ามายังเว็บไซต์ที่หระทรวงยุติธรรมเปิดขึ้น โดยมีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทำหน้าที่เป็นเว็บไซต์กลาง โดยประชาชนก็สามารถติดตามคามคืบหน้าความเคลื่อนไหวการร่างกฎหมายของแต่ละกระทรวงได้เช่นกัน จากนั้นก็จะรายงานเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
เมื่อถามว่าที่ประชุมได้มีการพูดคุยเรื่องการปฏิรูปตำรวจ และปฏิรูปการศึกษาหรือไม่ นายชาญเชาวน์ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงศึกษาธิการ ต้องตั้งเรื่องขึ้นมาเพื่อประสานงานกับสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตามรัฐธรรมนูญ และต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี
เมื่อถามถึงกรณีร่างกฎหมายวินัยการเงินการคลัง จะทำเสร็จทันหรือไม่นั้น ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ทางผู้แทนกระทรวงการคลังระบุว่าร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ ตนมั่นใจว่าทำเสร็จทันตามกรอบเวลา
