สอบหญิงคนสนิท ทวีวัฒน์ เอากล่อง12 ล้านมาทิ้ง ไม่รู้มีเงินอยู่ ชัดที่มาโยงนิคมฯจะนะ
วันที่ 13 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน เงิน 12 ล้านบาท ที่พบในกล่องวางไว้ข้างกองขยะในคอนโดมีนียมย่านเมืองทองธานี ซึ่งมี นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ออกมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน โดยอ้างว่าเก็บเอาไว้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นเงินจากการเป็นทนายความ
ทั้งนี้จากการแกะรอยของตำรวจชุดสืบสวนบช.ภ.1และบก.ภ.จว.นนทบุรี ทำให้ทราบแน่ชัดแล้วว่า เงินดังกล่าว มีการเบิกจากธนาคารในช่วงปี 2563 โดยเบิกจากบัญชีของบริษัท 4 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับนายทวีวัฒน์ และพบว่าต้นตอ โอนมาจากบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง ปิโตรเคมี โรงกำจัดขยะ เข้าบัญชีของบริษัททั้ง 4
นอกจากนี้การสืบสวนสอบสวนทราบว่า เงินที่โอนมาจากบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ของเสี่ยชื่อดังนั้น เพื่อใช้ในการจัดมวลชนสนับสนุนโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ในพื้นที่อ.จะนะ จ.สงขลา ทั้งนี้ในช่วงปี 2563 เป็นช่วงจัดประชาพิจารณ์ ขั้นตอนสำคัญในการตัดสินโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ท่ามกลางความขัดแย้งโดยมวลชนจำนวนมากในพื้นที่คัดค้านโครงการ มองว่ากระทบต่อวิถีชีวิต ท้องทะเล และการประมงรุนแรง แต่อีกด้านมีมวลชนอีกฝ่ายออกมาสนับสนุนให้ก่อสร้างโครงการ
ข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ธนาคาร จนทราบรายละเอียดการเบิกเงินทั้งหมดแล้ว โดยพบว่ามีการเบิกครั้งละ 1,900,000 บาท เพราะหากเบิกเกิน 2 ล้านบาท จะต้องมีการรายงานไปยังปปง. เมื่อได้ข้อมูลว่าเบิกจากบริษัท 4 แห่ง ที่ส่วนใหญ่ปิดกิจการไปแล้วในปี 2564 แต่ยังสามารถติดตามบุคคลที่ปรากฏมีชื่อเป็นกรรมการบริษัทเหล่านั้นเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยพบว่ากรรมการบริษัทดังกล่าวหลายราย เป็นชาวบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด อย่างไรก็ตามทำให้ได้ข้อมูลว่า เป็นเงินที่โอนมาจากบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ระดับชาติดังกล่าวนั่นเอง
นอกจากนี้ตำรวจยังคาดว่า การที่เงินเบิกจ่ายมาเพื่อใช้ในการผลักดันโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ยังเหลืออยู่ที่นายทวีวัฒน์ถึง 12 ล้านบาท คงเพราะถึงขณะนี้โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ยังไม่สามารถเริ่มต้นโครงการได้ แต่กลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ที่ต้องการให้โครงการนี้แจ้งเกิด ยังพยายามทุกวิถีทางเพื่อผลักดันต่อไป เป็นไปได้มากว่า เงินที่เหลืออยู่และยังเก็บเป็นเงินสด เพราะหากโครงการฟื้นกลับมา และจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ใหม่ อาจจำเป็นต้องนำออกมาใช้ เพื่อจัดการด้านมวลชน เพื่อให้มีเสียงสนับสนุนโครงการให้ได้มากที่สุด
ข่าวแจ้งด้วยว่า ชุดสืบสวนได้สอบปากคำพยานสำคัญอีกราย ที่รู้เห็นว่าเงินในกล่องดังกล่าวเก็บอยู่ในห้องพักของนายทวีวัฒน์ในคอนโดมีเนียม เมืองทองธานี โดยพยานปากนี้เป็นหญิงสาวรายหนึ่ง ที่แวะเวียนมาพักที่ห้องของนายทวีวัฒน์ ซึ่งโดยปกตินายทวีวัฒน์จะใช้ห้องพักในคอนโดฯแห่งนี้สำหรับเก็บของ และมาพักบ้างเป็นครั้งคราว
ทั้งนี้ตำรวจได้สอบปากคำหญิงสาวรายนี้ ทำให้ทราบว่าเป็นผู้ที่นำข้าวของในห้องนายทวีวัฒน์ที่เปียกน้ำออกมาทิ้งที่กองขยะ เนื่องจากเกิดฝนตกและน้ำรั่วเข้าห้องพักจนทำให้ทรัพย์สินจำนวนหนึ่งเปียกน้ำเสียหาย หญิงรายนี้จึงนำออกมาทิ้งที่กองขยะ ซึ่งรวมทั้งกล่องพลาสติกดังกล่าวด้วย โดยไม่รู้ว่าข้างในมีเงินสดอยู่ 12 ล้านบาท จนกระทั่งมีเพื่อนร่วมคอนโดนมีเนียมมาพบกล่องใบนี้ แล้วเปิดออกจึงรู้ว่ามีเงินสดๆอยู่จำนวนมากดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้พยานหลักฐานรองรับว่า เงิน 12 ล้านบาทที่พบ เป็นของนายทวีวัฒน์ตามที่อ้างจริง และไม่ใช่เงินผิดกฎหมาย เพียงแต่มาของเงินเกี่ยวโยงกับการผลักดันโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ที่มีข้อขัดแย้งกับมวลชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม เงินก้อนนี้คาดว่าจะเกิดปัญหากับภรรยาของนายทวีวัฒน์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในปปช. กำลังจะถูกสอบสวนว่าเข้าข่ายแจ้งบัญชีทรัพย์สินของตัวเองและคู่สมรสไม่ครบถ้วนหรือไม่