รายงานพิเศษ : สแกน 5 แคนดิเดต วัดทุกขุมกำลัง ชิงดำนั่งปลัดทส. ‘รวีวรรณ’ มาแรง
ท่ามกลางกระแสการปรับครม.รุนแรงดุเดือด ช่วงเพลานี้
ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ก็ลุกเป็นไฟคู่ขนานไปกับการปรับครม. มิยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
เหตุมาจากกระแสข่าว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส.เจ้าของสมญานาม ปลัดประสานสิบทิศ ซึ่งมีวาระเกษียณอายุราชการในปีนี้ จะลาออกเพื่อไปรับตำแหน่ง รัฐมนตรีกระทรวงพลัง ก่อนหมดวาระ
นักข่าวเช็กข่าวกันให้ว่อนไม่เป็นอันหลับอันนอน ว่าวันนี้ “ปลัดตุ๋ม” ยื่นใบลาออกหรือยัง
“ตอนนี้ยัง” นายจตุพร ให้คำตอบเช่นนี้ นำไปซึ่งการตีความว่า ในเร็ววันอาจจะลาออก แต่ เมื่อไหร่ คอยดูเอาเองแล้วกัน
นั่นนำไปสู่การมองหา คนที่จะมานั่งตำแหน่งแม่ทัพนายกองฝั่งข้าราชการคนต่อไป จะเป็นใคร
“คนจะเป็นปลัดทส.จะต้องไม่ใช่ ฝ่ายบู๊ แต่จะเป็น ฝ่ายบุ๋น มากกว่า”
แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าว โดยให้เหตุผลว่า พรรคประชาธิปัตย์ ที่ดูแลทส.อยู่เวลานี้ ไม่ได้ต้องการ นักรบ แต่ต้องการคนวางหมาก หวังเรียกคะแนนให้พรรคที่ตอนนี้เสียงกำลังย่ำแย่ ซึ่ง กำลังพลจาก ทส.เป็นตัวช่วยที่สำคัญ หากได้คนของตัวเองวางใจ เป็นแม่ทัพในทส.
อย่างไรก็ตามหากการปรับครม.ลุกลามมายัง ทส.ด้วย ตัวแปรดังกล่าวก็จะเปลี่ยนไปทันที
มติชนออนไลน์ พาสแกนตัวเต็งที่มีสิทธิ์นั่งเก้าอี้ปลัด ในวันที่ ปลัดตุ๋ม อาจทิ้งทวนไปนั่งเป็นรัฐมนตรี
อันดับแรก ที่ต้องแนะนำ ก็คือ รวีวรรณ ภูริเดช อดีต เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) ที่ข้ามห้วยไปนั่ง เป็น ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) แม้ประสบการยังน้อยในทส.เมื่อเทียบกับชายหนุ่มอีก 4 คน ในวินาทีนี้ ว่าด้วยความอาวุโส และนามสกุลดัง ต้องจับตามองเธออย่ากระพริบตา
รายที่ 2 คือ อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยาน กับเวลาราชการที่เหลืออีก 1 ปี และฝีไม้ลายมือ ไม่เป็นรองใครในบรรดา แคนดิเดต ปลัดทส.ทุกคน อีกทั้ง ประสบการณ์ ทำงาน ผ่านการเป็นอธิบดีทุกกรมที่สำคัญที่เป็นหัวใจหลักของทส. ทั้ง กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมควบคุมมลพิษ มีจุดยืนชัดเจนเรื่องการทำงาน ชำนาญทั้งบู๊และบุ๋น ที่สำคัญ ยังทำหน้าที่เข้าตา ฝ่ายการเมือง ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร
แม้ล่าสุด มีข่าวมาว่า นายอรรถพล จะขอเกษียณตัวเองในตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยาน แต่หากชาติต้องการ เขาก็คงปฏิเสธ หน้าที่ปลัดทส.ไม่ได้
ตามมาด้วย ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มากฝีมือ เรื่องการบริหาร และปฏิบัติ เพราะเป็นผู้บริหารระดับสูงมาแล้วเกือบทุกกรมในทส.พ่วงท้ายด้วยตำแหน่งลูกชาย อดีตปลัดทส.นายปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ผันตัวไปเล่นการเมืองกับพรรคเพื่อไทย และเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ระยะหนึ่ง
ปิ่นสักก์เป็นนักวิชาการ ที่มีความชัดเจน และอยู่แถวหน้า ในงานที่ตนเองถนัด โดยเฉพาะงานจัดการทรัพยากรทางทะเล
หากนายปิ่นสักก์ อาจจะพลาดตำแหน่งปลัดทส.คราวนี้ ก็เป็นเพราะอายุราชการยังเหลืออีกถึง 8 ปี ยังไม่สาย และอย่างไรเสีย ตำแหน่งปลัดทส.คงถึงมือสักวันหนึ่งแน่ๆ แต่วันนี้ ก็ไม่สามารถมองข้ามชายหนุ่มคนนี้ได้เลย
ล่าสุด มีข่าวมาว่า นายปิ่นสักก์ เป็น แคนดิเดตเบอร์ 1
เช่นเดียวกับ อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช ที่แม้ว่า จะเป็นคนที่ นายจตุพร ไว้ใจ มากที่สุด แต่ด้วย อายุราชการเหลืออีก นับสิบปี คาดว่า ปลัดทส.ยังไม่น่าเป็นของนายพิรุณในเร็ววันนี้
และสุดท้าย คนที่ใครๆคิดว่าจะเป็นม้านอกสายตา อย่างนายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ถึงเวลานี้ ศิษย์เก่าวนศาสตร์รุ่น 51 คนนี้ถูกมองข้ามไปไม่ได้ เพราะแว่วมาว่า เป็นคลื่นใต้น้ำประสานสิบทิศ บวกกับฝืมือ ประสบการณ์ และความอาวุโส ม้านอกสายตา อาจกลายเป็นม้ามืดได้เลย
ทุกคนในทส.เวลานี้ แทบนั่งเก้าอี้กันไม่ติด ต่างพากันลุ้นแม่ทัพคนใหม่ของตัวเอง ว่าธงจะไปอยู่ในมือใคร