อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ เขียน การเมืองของการทำให้ ‘ประชาธิปไตย’ อ่อนแอ

อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ เขียน การเมืองของการทำให้ ‘ประชาธิปไตย’ อ่อนแอ

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แห่งภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เผยแพร่บทความ เรื่อง “การเมืองของการทำให้ “ประชาธิปไตย” อ่อนแอ” ผ่านเพจ ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง โดยมีเนื้อหาดังนี้

การเมืองไทย “ประชาธิปไตยไทย” กำลังถูกทำให้อ่อนแอลงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมองได้ว่าเป็นกระบวนการทางการเมืองของความตั้งใจที่จะทำให้พรรคการเมืองตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ไปหมดทุกพรรค กระบวนการนี้ส่งผลโดยตรงในการทำให้กระแสของความหวังของสังคมที่จะสร้าง “ประชาธิปไตย” ให้เข้มแข็งนั้น ลดทอนถอนพลังลงไปอย่างเห็นได้ชัด

กระบวนการทางการเมืองที่เกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นจากเงื่อนไขหลัก ก็คือ ความปรารถนาที่จะรักษาสภาวะเดิมทางอำนาจของเครือข่ายชนชั้นนำให้ดำรงอยู่ในสถานะที่เหนือกว่า แต่ขณะเดียวกันก็ยังจำเป็นที่จะต้องรักษาไว้ซึ่ง “ระบอบการเมืองประชาธิปไตย” ไว้ เพราะไม่ต้องการให้เกิดความตึงเครียดจากกลุ่มคนที่ต้องการประชาธิปไตยและทางสากล

กระบวนการการเมืองนี้เริ่มต้นการดึงผู้นำพรรคการเมืองหนึ่งมา “ใช้” เพื่อลดทอนกระแสความต้องการความเปลี่ยนแปลง แต่ขณะเดียวกัน ความไม่ไว้ใจพรรคและผู้นำพรรคที่ตนเองต้อง “ใช้” ก็ทำให้หันไปผลักดันและ “ให้ท้าย” อีกพรรคการเมืองหนึ่งขึ้นมาคานอำนาจเอาไว้ โดยทำตัวอยู่ “บนภู ดูเสือกัดกัน”

ADVERTISMENT

เมื่อชนชั้นนำเชื่อว่ากลุ่มตนสามารถที่จะลดกระแสของความเปลี่ยนแปลงไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจกฎหมายกดทับจนทำให้พรรคฝ่ายต้องการความเปลี่ยนแปลงต้องพูด/ทำในสิ่งที่ไม่เคยพูดมาก่อน รวมทั้งต้องแสดงให้เห็นกรายๆให้เห็นว่าพรรคตนเองลดมาตราฐานทางการเมืองลง กระบวนการทางการเมืองนี้จึงได้เห็นแนวทางที่ทำตามความปรารถนาได้ชัดเจนขึ้น อันได้แก่ การรักษาสภาวะเดิมทางอำนาจของเครือข่ายชนชั้นนำโดยมีอำนาจเหนือพรรคแต่รักษาภาพของ “ระบอบการเมืองประชาธิปไตย” ไว้ได้

การเมืองที่ทำให้พรรคการเมืองทุกพรรคอ่อนแอด้วยการ “บ่อน เซาะ กร่อน ทำลาย” ความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยของสังคม เริ่มขึ้นด้วยการ “ชี้แนะ ชี้นำ ชักจูง” ให้เกิดการเล่นงานพรรคการเมืองด้วยแง่มุมและข้อมูลของการกระทำที่ล่อแหลมหรือผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกรณีชั้น ๑๔ การออกตั๋ว PN การฮั้ว ส.ว. ที่ดินเขากระโดง ที่ดินอัลไพน์ (แง่มุมและข้อมูล ถูกทำให้ใช้ได้ด้วยความตั้งใจ ) แน่นอนว่าบรรดาผู้นำในพรรคการเมืองต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีแผลอยู่ข้างหลังอยู่แล้ว จึงทำให้การเมืองของการทำให้พรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอ่อนแอจึงทำได้อย่างประสบผลสำเร็จอย่างสำคัญ

การเมืองของการรักษาอำนาจชนชั้นนำปฏิเสธการเมืองเลือกตั้งแบบประชาธิไตยไม่ได้ แต่การทำให้สังคมมองพรรคการเมืองอย่างไร้ความไว้วางใจ ไร้ความเชื่อมั่น ก็ทำให้การเลือกตั้งไม่มี “อันตราย” ต่อสถานะเดิมของตนอีกต่อไป พรรคการเมืองทุกพรรคที่ผ่านการเลือกตั้งเข้ามาก็ต้อง “สยบ” กับอำนาจชั้นนำโดยปริยาย จึงไม่แปลกใจที่อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล กล่าวถึงประชาธิปไตยสองใบอนุญาต

สังคมไทยไม่พอใจและโกรธนักการเมือง และพรรคการเมืองที่เลวร้ายได้ แต่ต้องตระหนักว่าเราไม่ควรผลักความรู้สึกนี้ลงโทษ “ระบอบประชาธิปไตย”

เราทุกคนต้องเก็บความไม่พอใจ ความโกรธนี้เป็นพลังร่วมกันในการสร้างการเมืองไทยให้ดีขึ้น งดงามขึ้น