เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่กังวลถึงกรณีที่สถาบันนโยบายโลกเตรียมเชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปบรรยายเกี่ยวกับสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจประชาธิปไตยของไทย รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 9 มีนาคม โดยระบุว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่ต้องพูดในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประเทศและเป็นข้อมูลจริง ไม่ควรพูดอะไรที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่ควรทำให้ประเทศเดินหน้าและมั่นใจว่านายทักษิณก็รักประเทศไทยเพราะเป็นคนไทย
ส่วนการเดินสายออกสื่อต่างประเทศของนายทักษิณในช่วงนี้ พล.อ.ประวิตรระบุว่า ไม่ได้ตั้งข้อสังเกต แต่การจะให้เลือกตั้งยังทำไม่ได้ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของโรดแมปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ประกาศไปนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาประกาศและทุกคนก็ยอมรับในโรดแมปดังกล่าว การออกมาพูดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะโรดแมปมีความชัดเจนอยู่แล้ว
สำหรับข้อเสนอของรัฐบาลต่อ กรธ.ในข้อ 16 ที่กำหนดบทเฉพาะให้มีช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ป พล.อ.ประวิตรระบุว่า ไม่ใช่ว่าให้นายกรัฐมนตรีอยู่ต่ออีก 5 ปี แต่จะต้องทำให้มีการปฏิรูปตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. เข้ามาดำเนินการ แต่ถึงอย่างไรการดำเนินงานต่างๆ ก็จะต้องอยู่ที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. และยืนยัน คสช.ไม่อยู่ต่อแน่
ส่วนกรณีที่การเสนอข่าวว่า พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป ที่ออกมาระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประวิตรระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องขององค์กร ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. ก็จะดำเนินการทุกอย่างเองทั้งหมด แต่ยืนยันว่าเรื่องการซื้อตำแหน่งไม่มีแน่นอน แต่หากจะมีการแอบอ้างซื้อขายตำแหน่งตนไม่ทราบ เพราะได้กำชับกับ ผบ.ตร.อย่างชัดเจน ท่านรู้ว่าควรจะแก้ไขอย่างไร
ขณะผลการเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการ พล.อ.ประวิตรเปิดเผยว่า ก็ได้มีการไปพูดคุยถึงความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศว่าจะร่วมมือกันอย่างไร ทั้งในเรื่องการป้องกันการก่อการร้ายข้ามชาติ การร่วมมือทางด้านการค้าการลงทุน ซึ่งถือว่ามีได้การตอบรับที่ดี แต่ถึงอย่างไรยืนยันว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องการซื้อขายยุทโธปกรณ์ แต่มีแผนที่จะจัดชื้อเครื่องบินดับไฟป่า ซึ่งก็เป็นเรื่องของคณะทำงานที่จะพูดคุยถึงรายละเอียด รวมถึงไม่มีการพูดคุยกรณีที่รัสเซียจะมาตั้งโรงงานยุทโธปกรณ์ในไทย ส่วนตัวก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะทางรัสเซียมีเทคโนโลยีที่สูง
ทั้งนี้กรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เตือนให้ระมัดระวังการเข้ามาสร้างสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกลุ่มแบล๊กสวอนที่เป็นกลุ่มย่อยของกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม หรือไอเอส พล.อ.ประวิตรระบุว่า จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีกลุ่มก่อการร้ายในไทย แต่ถ้า พล.อ.ชวลิตบอกว่ามีจริง ขอให้พาตนเองไปดู และส่วนตัวก็ไม่เคยคิดที่จะหารือกับทาง พล.อ.ชวลิต แต่ถึงอย่างไรก็เห็นใจที่ พล.อ.ชวลิตทำงานมานาน จึงอยากให้พักผ่อน
