รายงานพิเศษ : เปิด 2 เงื่อนไข ประคอง รัฐบาลอิ๊งค์ บทพิสูจน์ฝีมือ ผ่านเส้นทางมหาโหด

รายงานพิเศษ : เปิด 2 เงื่อนไข ประคอง รัฐบาลอิ๊งค์ บทพิสูจน์ฝีมือ ผ่านเส้นทางมหาโหด

 ทีมข่าวออนไลน์ 

ยังเป็นสถานการณ์ชี้เป็นชี้ตาย สำหรับสถานภาพของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร

ที่หลังจากเผชิญเหตุคลิปสนทนากับสมเด็จฯฮุนเซน หลุดออกไป จนกลายเป็นจุุดอ่อนให้ถูกไล่บี้ทางการเมือง

จากเดิมที่จะปรับครม.เอากระทรวงมหาดไทยคืน พร้อมรุกไล่ภูมิใจไทยให้ไปเป็นฝ่ายค้าน กลับถูกฉกฉวยโอกาส ถูกโจมตี ให้ภูมิใจไทย ถอนตัวเสียเอง

โดยอ้างเรื่องเสียเกียติภูมิ ศักดิ์ศรีของชาติ ประชาชน และกองทัพ

ไม่ได้พูดถึงเรื่องถูกริบเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแม้แต่นิดเดียว

จากนั้นกระแสก็ลามไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อจี้ให้แสดงท่าทีชัดเจน โดยคาดหวังว่าจะให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนภูมิใจไทย

บีบเพื่อไทยให้โดดเดี่ยว!!

ดังจะเห็นว่าพรรคร่วมเกือบทุกพรรคนัดประชุมกำหนดท่าทีทันที

อย่างไรก็ตามด้วยการแก้เกมของรัฐบาล นายกฯแพทองธาร ออกมายอมรับอย่างรวดเร็ว ไม่ให้กระแสข่าวลือกระพือมากขึ้น ตามด้วยการนัดประชุมผบ.เหล่าทัพ ในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้นทันที

เมื่อเช็กชื่อมากันพร้อมทั้งผบ.ทสส. ผบ.ทบ. ผบ.ตร. จะขาดก็แค่ผบ.ทอ.และผบ.ทร. ที่ติดภารกิจต่างประเทศ เดินทางกลับมาไม่ทัน ก็มอบให้เสธ.ทอ. และเสธ.ทร.ร่วมประชุมแทน

ตามด้วยการแถลงของนายกฯแพทองธาร โดยมีฉากหลังเป็นกองทัพ สร้างภาพให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและกองทัพยังแน่นแฟ้น

พร้อมคำหวาน จะซัพพอร์ตกองทัพทุกเรื่อง เพื่อสู้กับภัยมั่นคงของชาติ

ทำให้ทุกพรรค ‘เลื่อน’ เวลาหารือไปช่วงเย็น ก่อนที่ผลจะออกมาคือ ประชาชาติ-กล้าธรรม ไม่มีประชุมพรรค แต่หัวหน้าพรรคออกมายืนยันสนับสนุนให้ อิ๊งค์ ไปต่อ

ชาติไทยพัฒนา เผยอยากจะคุยนายกฯ แต่ยังไม่ถอนตัว ประชาธิปัตย์ เผยมติชัด สนับสนุนรัฐบาล

จะมีก็รวมไทยสร้างชาติ ฟากของพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เสนอเปลี่ยนตัวนายกฯจากแพทองธาร เป็นชัยเกษม นิติสิริ

แต่ก็ถูกดักคอ ว่าเป็นเพียงแผนลวง เพราะที่แท้จริงคือให้นายกฯอิ๊งค์ลาออก เผื่อมีโอกาสเสนอชื่อ นายกฯพีระพันธุ์ขึ้นแทน

แถมยังมีข่าว บิ๊กน.คนดังต่อสายลุง พร้อมเป็นกองหนุนให้ตุ๋ย พีระพันธุ์ นั่งเก้าอี้ใหญ่

สะท้อนให้เห็นภาพความไม่เป็นปึกแผ่นภายในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างชัดเจน!!

แต่อีกด้านกลุ่ม 18 ที่นำโดยส.ส.เฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น ก็ยังยืนยันว่าสนับสนุนนายกฯอิ๊งค์

ทำให้เห็นได้ว่า ที่จะมีปัญหา ก็แค่ 18 เสียงจากฟากพีระพันธุ์เท่านั้น

กลายเป็นคำถามว่า แล้วนายพีระพันธุ์ มีโอกาสที่จะนั่งนายกฯได้หรือไม่

โดยถ้าพูดกันตามหลักเกณฑ์แล้วก็ยังถือว่ามีสิทธิ์

เพราะเป็นแคนดิเดตของรวมไทยสร้างชาติ ยังเป็นพรรคที่มีส.ส.อย่างน้อย 25 คน หรือ 5 %ของสมาชิกสภาผูัแทนฯ ถูกเสนอชื่อได้อยู่แล้ว

แต่หากมองให้ลึกลงไป เส้นทางของนายพีระพันธุ์ก็ไม่ได้เรียบฉลุย มีทั้งคำร้องเรื่องถุงยังชีพติดชื่อ และการถือหุ้นบริษัทเอกชน

จนถูกสงสัยว่าหรือจะเป็นตัวหลอกอีกชั้น ก่อนส่งต่อเก้าอี้ไปให้ลุงในตำนาน!!

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของรัฐบาลแพทองธาร ก็ยังดูจะมีภาษีดีกว่า ด้วยปัจจัยหลัก
เรื่อง นั่นก็คือ

1.ความสัมพันธ์กับกองทัพที่ไม่ถึงขั้นร้าวฉาน สามารถต่อกันติด

2.เก้าอี้รัฐมนตรี ที่เพิ่มขึ้นมาจากการถอนตัวของภูมิใจไทย 8 ตำแหน่ง นั่นก็คือ รมว.มหาดไทย รมว.อว. รมว.ศธ. รมว.แรงงาน รมช.ศธ. รมช.พาณิชย์ และรมช.มท.อีก 2 ตำแหน่ง

ทั้ง 2 ปัจจัยนี้ล้วนเป็นสิ่งเกื้อหนุนให้รัฐบาลแพทองธาร เดินหน้าไปได้

และเชื่อว่าเมื่อฟอร์มรัฐบาล ปรับครม.เสร็จสิ้น จะสามารถดึงดูดส.ส.จากฟากฝั่งต่างๆ ให้หวนกลับมาสนับสนุนได้อีกครั้ง

แต่แน่นอนว่าก็ไม่ได้สะดวกสบายราบเรียบนัก เพราะแม้จะคงอยู่ได้ก็ยังเผชิญแรงกดดันอื่นๆอยู่อีก

ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่ถูกจับจ้องด้วยความไม่ไว้วางใจถึงสัมพันธ์ส่วนตัวว่าอยู่เหนือผลประโยชน์ส่วนรวมหรือไม่

เกมในสภาที่ต้องเผชิญหลังเปิดสมัยประชุมต้นเดือนหน้า ทั้งเรื่องพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ พ.ร.บ.งบประมาณ

และอาจต้องเจอการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่ต้นฤดู โดนล็อกไม่ให้ยุบสภาหนีซักฟอก

คดีความมากมาย ที่กำลังจะถาโถม คำร้องถอดถอนจากประธานวุฒิสภา ที่จะเป็นชนักติดหลังท่านายกฯ

กับอีกปัจจัยก็คือกลุ่มมวลชน ที่เฮโลสาระพา รวมตัวกันตั้งแต่คนจัดม็อบเมื่อ 20 ปีก่อนจนถึงรัฐประหารล่าสุดเมื่อปี 57 ล้วนมาจับมือกันจี้ให้นายกฯแพทองธาร ลาออก

ซึ่งก็ต้องจับตาท่อน้ำเลี้ยง ที่หากต่อกันติด ปลุกกันขึ้น ก็ไม่น่าใช่เรื่องที่ดี

ทั้งหมดล้วนเป็นเส้นทางที่รัฐบาลแพทองธาร ต้องเผชิญ เพราะแม้จะยังอยู่ได้ แต่ก็ไม่ราบรื่น

จนต้องลุ้นว่ารัฐบาลแพทองธาร จะฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้หรือไม่ 

และจะมีบทสรุปสุดท้ายอย่างไร!!?