นายกฯ แถลง ตัดเน็ต-ไฟฟ้า-น้ำมัน ห้ามคนผ่านแดนกัมพูชา แก้สแกมเมอร์ ขีด 3 เดือนเห็นผล

นายกฯ แถลง ตัดเน็ต-ไฟฟ้า-น้ำมัน ห้ามคนผ่านแดนกัมพูชา แก้สแกมเมอร์ ขีด 3 เดือนเห็นผล

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย

นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทสส. นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ต่อมาเวลา 15.20 น. น.ส.แพทองธารแถลงภายหลังการประชุมว่า วันนี้ประชุมทุกภาคส่วน รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยที่ไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ

จากข้อมูลของ UN หรือสหประชาชาติที่ได้มีข้อมูลว่า กัมพูชาถือเป็นแหล่งศูนย์รวมอาชญากรรมระดับโลก ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 600,000 ล้านบาท/ปี

ADVERTISMENT

ประเทศไทย โดยหน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยงาน กระทรวง DE กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ เร่งดำเนินการปราบปรามอย่างเด็ดขาดตามแนวชายแดน โดยได้กำหนดมาตรการดังนี้

• ด้านความมั่นคง จะเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการเข้า-ออกจุดผ่านแดน ทั้งการจำกัดเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดน 7 จังหวัด ห้ามรถยนต์และบุคคลเข้า-ออก ยกเว้นในกรณีมีเหตุจำเป็นชัดเจน เช่น นักเรียน นักศึกษา และคนป่วย

นอกจากนี้ ห้ามให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเล่นการพนันในพื้นที่ชายแดน รวมถึงการเข้มงวดการเดินทางโดยเครื่องบินไปยังเสียมราฐ เพื่อไปเล่นการพนัน

• ด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กระทรวง DE โดยศูนย์ AOC จะดำเนินการตรวจสอบบัญชีม้าและเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติอย่างเข้มงวด รวมถึงการระงับการบริการอินเตอร์เน็ต และประตูอินเตอร์เน็ตใต้น้ำ ที่ไปยังหน่วยงานทางการทหาร และความมั่นคงของรัฐบาลกัมพูชาทั้งหมด

นอกจากนี้ จะต้องร่วมมือกับทาง ปปง.ในการสร้างมาตรการคว่ำบาตรผู้ที่เป็นอาชญากรข้ามชาติ ที่พบว่ามีการฟอกเงิน รวมถึงการยึด หรืออายัดทรัพย์สินที่โยกย้ายไปต่างประเทศด้วย

• ด้านการส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสินค้าผ่านชายแดน ต้องระงับการส่งออกสินค้าที่เกื้อหนุนต่อกิจกรรมของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิจารณาถึงความเหมาะสมในการระงับการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังกัมพูชา ที่จะนำเอาไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย

• ด้านการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และ SME ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน โดยขอความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในการรับซื้อสินค้า

• ด้านการประสานความร่วมมือกับนานาชาติ กระทรวงการต่างประเทศจะประสานกับประเทศต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศ ในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้ไทยเป็นศูนย์กลางปฏิบัติการร่วมในภูมิภาค

นายกฯกล่าวว่า ตนได้ให้ทุกภาคส่วนในการกำหนดไทม์ไลน์และตั้ง KPI ในการดำเนินมาตรการอย่างชัดเจน โดยขอให้ภายใน 3 เดือน สถิติการแจ้งความของคนไทย ความเสียหาย การยึดทรัพย์ และการดำเนินคดีเครือข่าย จะต้องเห็นผลลดลงอย่างเป็นรูปธรรม

รัฐบาลขอย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหานี้ที่จะต้องเร่งแก้ไขให้หมดไปโดยเร็ว และให้มีการสื่อสารที่ถูกต้องกับพี่น้องประชาชน

นายกฯกล่าวว่า ในธุรกิจของคนไทยที่อยู่ในกัมพูชา เราสนับสนุนอยู่แล้ว ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ที่ผ่านมามีแต่กัมพูชาประกาศไม่รับน้ำมัน จริงๆ แล้วเป็นชายแดนที่เกิดขึ้น แต่ถ้าลุกลามมากขึ้น ปัญหาคือผู้นำกัมพูชาต้องกำหนดราคาน้ำมัน ไม่รับจากไทย จะทำให้ราคาสูงขึ้นตกอยู่กับชาวกัมพูชา

ส่วนธุรกิจอย่างอื่นอาจได้รับผลกระทบไปด้วยหรือไม่นั้น เราได้สำรวจหมด ที่แจ้งว่าธุรกิจไทยเป็นประเภทโรงแรมและอยู่ในตัวเมือง ส่วนชายแดนไม่ค่อยมี ส่วนเรื่องเกษตรกร ภาครัฐและเอกชนพร้อมซัพพอร์ตซื้อสินค้าจากประชาชน

เรามีการมอบอำนาจในการประชุม สมช. ในเรื่องการควบคุมชายแดน ให้กองทัพพิจารณาจากหน้างานได้ทันที