ผู้เขียน | ชโลทร |
---|
⦁…ยุติสงคราม “อิหร่าน” หยุดรบ “อิสราเอล” ตามแถลงการณ์ โดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีป่วนโลกแห่ง “สหรัฐ” อาจจะเป็นเพราะ “คำพูดไม่อยู่กับร่องกับรอย เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด” แม้ทั้งโลกภาวนาให้เป็นไปตามแถลง ด้วยต่างรู้ว่า “สงครามไม่เคยสร้างผลดีให้กับใคร” ยกเว้น “นักค้าอาวุธ” แต่ยุคสมัยเช่นนี้ต้องท่องไว้ “จะเอาอะไรกับน้ำลายมหาอำนาจ”
⦁…ใกล้วันนัด “ชุมนุมใหญ่-28 มิ.ย.” หมู่มวลขุนพล “ล้มรัฐบาล” ต้องปลุกให้คึกคักเป็นธรรมดา ฟังมาว่ารวบรวมเงินทุนได้ระดับหนึ่ง แต่รอบนี้ “ไม่มีท่อน้ำใหญ่ส่งมาเลี้ยง” ความเป็นจริงคือ “รัฐบาลข้ามขั้ว” ทำให้หลายคนที่เคยเป็นหลักในภาระระดมทุน พลิกมาเป็นรัฐมนตรี จะหาเงินมา “ช่วยไล่ตัวเอง” ก็กระไรอยู่
⦁…หลัง “ภูมิใจไทย” ออกไป แต่ละพรรคได้เพิ่ม “โควต้ารัฐมนตรี” ใช้ระบายความอึดอัดภายใน ที่ก่อนหน้านั้นจัดสรรกันได้แค่ “เจ้าของพรรค” วาสนาไม่กระจายไปถึง “สมาชิกผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข” รอบนี้เป็นโอกาสที่จะยืนยันว่า “คิดถึง” และ “พร้อมแบ่งปัน” ซื้อใจกันไว้ก่อนต้องระดมหาเสียงเลือกตั้งเที่ยวหน้า
⦁…ที่ถูกแรงเสียดทานหนักรอบนี้เป็น พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ซึ่งเดินเกมแบบเริ่มด้วย “กั๊กๆ” กระทั่งต้องอ้างเหตุการณ์ “อยู่ร่วมรัฐบาลต่อ” เพราะจะสาน “รื้อโครงสร้างราคาพลังงานให้สำเร็จ” แต่แม้จะเดิมพันระดับ “เลือกตั้งเที่ยวหน้าสอบตก ก็จะขออยู่ในอำนาจ” มวลชนที่เคยศรัทธายังแสดงออกไปในทาง“รู้เช่นเห็นชาติ” มากกว่าพร้อมจะเข้าใจ “รวมไทยสร้างชาติ” จึงน่าจะเป็น “รอบสุดท้าย” ที่อยู่ได้ หลังจากส่วนหนึ่ง ไปร่วมเป็นกำลังให้ “โอกาสใหม่” ชัดเจน
⦁…เมื่อ แพทองธาร ชินวัตร เดิมตามแนวกองทัพ “เอาจริงกับมาตรการกดดันรัฐบาลกัมพูชา” ให้ประชาชนเขมรรับรู้ว่า ท่าทีต่อ “เพื่อนบ้าน” แบบ “ฮุน เซน-ฮุน มาเนต” สร้างความเดือดร้อนอย่างไร สภาพการใช้ชีวิตใน “กัมพูชา” เวลานี้ต้นทุนสูงขึ้นเยอะในทุกด้าน ที่สุด “ปากท้องชาวบ้าน” จะพิสูจน์ให้เห็นว่า “คะแนนนิยม” ที่สร้างมาด้วย “ปลุกเร้าชาตินิยม” นั้น จะรักษาไว้ได้สักกี่น้ำ
⦁…วาระการเมืองในสภา ดูจะแตกหักกันวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งจะมีการพิจารณา “พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ซึ่ง “ฝ่ายค้านหน้าใหม่-ภูมิใจไทย” น่าจะประสานเสียงเป็นหนึ่งเดียวกับ “พรรคประชาชน” ซึ่งมีท่าทีไม่เห็นด้วยชัดเจนอยู่ก่อนหน้าแล้ว เมื่อผนึกเข้ากับ “แรงกดดันจากมวลชนภายนอก” ที่เบอร์ใหญ่ทั้งนั้นที่ออกมาเคลื่อนไหว ท้าทายอย่างยิ่งว่า พลังหนุนจะพอให้ ทักษิณ ชินวัตร จะยังกล้า “หักดิบ-ลุยไฟ” ต่อหรือไม่
⦁…เกมสังหารด้วย “นิติสงคราม” ที่ “ประธานวุฒิสภา” ควงดาบออกมาไล่รบเองให้ “แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ซึ่งจะมีการพิจารณากันวันที่ 1 ก.ค.นี้ จะเป็นคำตอบหลายอย่างสำหรับ “ทิศทางการเมืองไทย” โดยเฉพาะ “จริงหรือไม่ว่าความหวังในการบริหารจัดการประเทศ” ยังถูกฝากไว้กับ “รัฐบาลชุดนี้”
⦁…ชัดเจนที่สุด “พรรคที่เติบโต ขยายบทบาท” ได้มากมายที่สุดเป็น “กล้าธรรม”ภายใต้การนำของ ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ทำงานการเมืองแบบ “ถึงลูกถึงคน” โดยไม่ต้องประกาศอุดมการณ์สูงส่ง หรือ “ด่าทอทำลายล้างใคร” เล่นแค่ “ขยายฐานสนับสนุน” ด้วยวิชา “ใจถึงใจ” หลังเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นพรรคที่มี“พลังต่อรอง” สูงยิ่ง เพราะจะเป็นกำลังหลักที่แท้จริงของรัฐบาล หากไม่ถูกบงการให้จัดการด้วยกลไกของ “นิติสงคราม” ไปเสียก่อน






