วันชัยลั่นมีแต่นักการเมืองหัวเก่าเต้นแร้งเต้นกาต้าน รธน.เพราะกลัวกลไกสกัดโกง ชง คสช.เลือกตั้งท้องถิ่นตาม เป็นโมเดลก่อนเลือกตั้งใหญ่
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง กล่าวว่า เป็นที่รู้กันว่าถ้าแก้ปัญหาการเมืองและตัวนักการเมืองได้ก็ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาของประเทศนี้ได้เกือบทั้งหมด เพราะปัญหาในประเทศนี้ที่มีมาเกิดจากการเมืองและตัวนักการเมืองทั้งสิ้นที่เข้ามามีอำนาจแล้วโกงกิน ทุจริต คอร์รัปชั่น แสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองมากกว่าที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน แม้จะมีนักการเมืองที่ดีอยู่บ้างแต่ก็มีจำนวนน้อย ไม่สามารถที่จะไปสู้รบตบมือกับนักการเมือง ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนได้ ดังนั้นในการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จึงต้องการแก้ปัญหาให้ตรงจุด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศคือสกัดให้คนชั่ว คนโกง คนทุจริตออกไปจากเวทีทางการเมือง และต้องการให้คนดีมีความรู้ความสามารถมีที่ยืน และมีสิทธิเข้ามามีอำนาจทางการเมือง รวมถึงสร้างกลไกควบคุมกำกับดูแลคนดีที่มีอำนาจไม่ให้เพี้ยนไปหรือเปลี่ยนไปหาประโยชน์เพื่อตัวเอง นี่จึงทำให้นักการเมืองที่มีความคิดแบบเก่าๆ บางกลุ่มออกมาเต้นแร้งเต้นกา กล่าวหาโจมตี แต่ถ้าใครเป็นนักการเมืองที่ดี ไม่ต้องกลัวต่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้หัวใจที่สำคัญคือปราบคนชั่วคนโกง ไม่ว่าจะตอนเลือกตั้งหรือมีอำนาจ ถ้าโกงถูกประหารชีวิตทางการเมืองแน่นอน
นายวันชัยกล่าวว่า หากเขียนรัฐธรรมนูญออกมาเช่นนี้แล้วไม่ใช่สักแต่ว่าเป็นคัมภีร์ที่ดูดีเฉยๆ มันจะต้องปฏิบัติได้จริงด้วย ดังนั้นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อเป็นรัฎฐาธิปัตย์ต้องมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาดังกล่าว ต้องมั่นใจว่าทำได้ตามรัฐธรรมนูญที่ร่างออกมาได้จริงๆ ไม่เช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ
“เหตุผลนี้จึงต้องมีแผนเป็นขั้นเป็นตอน ระยะต้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อความมั่นใจว่าจะสัมฤทธิผลตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด โดยในระยะต้นช่วงเปลี่ยนผ่านแม้จะมีการเลือกตั้งก็ต้องอาศัยภาคส่วนอื่นๆ มาร่วมกันประคับประคองประชาธิปไตยให้มันเดินไปจนมั่นใจว่ามั่นคงเรียบร้อย แล้วจึงปล่อยให้เดินไปด้วยตัวของประชาธิปไตยเองในระยะ 2-4 ปีที่น่าจะกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาล นี่คือหลักการที่จะทำให้เห็นว่าสามารถปฏิบัติได้จริงสัมฤทธิผล
นายวันชัยกล่าวอีกว่า อีกส่วนหนึ่งที่ คสช.ควรจะดำเนินการทดลองให้เห็นเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการเลือกตั้งก็คือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะเป็นช่วง 2559 หรือต้นปี 2560 ก็ควรจะให้มีการเลือกตั้งเสียเลย แบ่งเป็นภาค แล้วลองเลือกตั้งดูว่าจะสกัดคนชั่วคนเลว คนโกง คนทุจริตออกไปได้ไหม จะทำให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรมได้ไหม นี่ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่น่าทำและเป็นการซักซ้อมใหญ่ก่อนการเลือกตั้งจริงซึ่งจะเป็นโมเดลและตัวชี้วัดของการเลือกตั้ง ส.ส. ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็จะเป็นเรื่องมโนเท่านั้น
