สืบเนื่องกรณี นายพริษฐ์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อายุ 30 ปี ทายาทหลวงเสรีเริงฤทธิ์ หนึ่งในคณะราษฎร ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สน.ดุสิต เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อให้ช่วยติดตามหมุดคณะราษฎรที่หายไป
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 เมษายน นายพริษฐ์ กล่าวกับ “มติชนออนไลน์” โดยยอมรับว่า ตนรู้สึกกลัวต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ในขณะที่สังคมไทยเรียกหาความกล้าหาญทางจริยธรรม แต่ตนยังไม่เห็นว่าผู้ใหญ่คนใดทำอะไร จึงตัดสินใจออกมาทำเพื่อชาติ คิดว่าอาจเกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง จึงออกมาตามหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ความกล้าของตน เทียบไม่ได้แม้เพียงเสี้ยวเดียวของสิ่งที่คุณทวด คือ หลวงเสรีเริงฤทธิ์ได้กระทำไว้
“สังคมเราเรียกหาความกล้าหาญทางจริยธรรม ผมก็ยังไม่เห็นผู้ใหญ่คนไหนทำอะไรเท่าไหร่ ผมก็ทำ เชื่อว่าสิ่งที่ทำ เป็นการทำเพื่อชาติบ้านเมือง ใครจะเห็นเป็นอย่างอื่นก็ไม่เป็นไร เมื่อเห็นปัญหาก็มาแจ้งผู้ใหญ่เท่านั้น ท่านจะจัดการหาทางออกอย่างไรก็แล้วแต่ รู้สึกลัว แต่เมื่อเทียบกับที่คุณทวดทำ เทียบไม่ได้แม้แต่เสี้ยวหนึ่งของท่าน ปกติตัวเองไม่เคยสนใจธรรมะ ไม่รู้เรื่องฤกษ์ยามใดๆทั้งสิ้น วันก่อนที่จะเดินทางไปแจ้งความ ยังถึงขั้นสวดมนต์ (หัวเราะ)” นายพริษฐ์กล่าว
