สมาชิกรุมจวกกม.คลื่นความถี่! ‘วิทยา’ ซัดสปท.ไม่มีหน้าที่เขี่ยลูกให้รบ.


ถก ร่างแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ทำที่ประชุมสปท.เดือด หลัง ปธ.กมธ.แจงข้อซักถามสมาชิกไม่เคลียร์ “วิทยา” เผย งดออกเสียง จวกยับไม่มีหน้าที่เขี่ยลูก-เชียร์รัฐบาล

เมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ( สปท.) ที่มี นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสปท. คนที่ 1 เป็นประธาน เพื่อพิจารณาแผนการปฏิรูปของคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการสื่อสารมวลชน เรื่องแก้ไขเพิ่มเติม ร่างพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) (ฉบับที่..) พ.ศ….โดย พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธานกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการสื่อสารมวลชน ได้ชี้แจงว่า การเสนอร่าง พ.ร.บ.พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นำเสนอ ซึ่งผ่านกระบวนการตรวจสอบการเสนอกฎหมายการตรวจร่างจากคณะกรรมการกฤษฎีกาและการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งพัฒนาดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม จึงจำเป็นต้องปรับปรุงองค์กรที่ทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับดูแลกิจการด้านโทรคมนาคม วิทยุโทรทัศน์ เพื่อให้มีการทำงานที่เป็นเอกภาพ เกิดความคล่องตัว ในการใช้จ่ายงบประมาณ การออกใบอนุญาต ซึ่งมีการปรับปรุงรวมบอร์ดต่างๆให้เหลือเพียง กสทช.เพียงบอร์ดเดียว ตามมาตรา 23 การเพิ่มอำนาจหน้าที่ในการเจรจา ตามมาตรา 16 และเพิ่มการเยียวยา ตามมาตรา 31-34

จากนั้น สมาชิกสปท.ได้อภิปรายพร้อมซักถามท้วงติงร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวจำนวนมาก โดย นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกสปท. ระบุว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จะขัดต่อกฎหมาย เพราะองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ต่างร่างพ.ร.บ.นี้จะเป็นองค์กรของรัฐ และไม่ได้เป็นอิสระจริง ทั้งนี้ สมาชิกส่วนใหญ่ยังไม่พอใจการตอบข้อซักถามของพล.อ.อ.คณิต ที่ไม่ได้รับความกระจ่าง ในที่สุดนายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานในที่ประชุมได้ตัดบทพร้อมให้ลงมติ โดยระบุว่าสมาชิกสามารถเสนอข้อคิดเห็นต่อกมธ.เพื่อปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ ก่อนที่นำเสนอต่อรัฐบาล ซึ่งปรากฏว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนดังกล่าวด้วยคะแนน 128 ต่อ 11 และงดออกเสียง 17 และให้ส่งเรื่องไปยังครม.ดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ ภายหลังการลงมติ นายวิทยา แก้วภราดัย สมาชิก สปท. ได้ลุกขึ้นกล่าวต่อที่ประชุมว่า ตนได้งดออกเสียง เนื่องจากไม่สบายใจต่อการทำงานของสปท.ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา เพราะเมื่อฟังประธานกมธ.ที่ระบุว่า เป็นการดำเนินการตามที่มีการเสนอมา ซึ่งเมื่อมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำแล้ว เราจะทำอีกทำไมเป็นการทำงานซ้ำซ้อน แต่เมื่อนำข้าสู่วาระการประชุมก็ต้องชี้แจงข้อสงสัยของสมาชิกให้ได้ทุกข้อ และต้องรับฟังความคิดเห็นในสภานี้ให้ได้ เราเป็นสภาปฏิรูป ไม่ได้ทำหน้าที่เขี่ยลูกอย่างเดียว

Advertisement

“ต้องตำหนิวิปสปท.ที่นำเรื่องเข้าสู่วาระการพิจารณา ลองคิดดูว่าหากสภาไม่เห็นชอบก็เท่ากับ สปท.สวนหมัดกับรัฐบาล แต่ถ้าเห็นชอบก็ยังออกเป็นกฎหมายไม่ได้ แต่กลายเป็นแค่เสียงเชียร์รัฐบาล ซึ่งท่านกำลังเอาสภาไปเสี่ยง ถ้าเราทำเช่นนี้ก็จะเสียหาย คิดว่า วิป สปท.จะต้องมีความรอบคอบในการกำหนดวาระการประชุม” นายวิทยา กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image