ที่มา | มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | วสิษฐ เดชกุญชร |
เผยแพร่ |
เมื่อไม่กี่วันมานี้ อาจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ลงข้อความในหน้าของท่านในเฟซบุ๊ก แสดงความวิตกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2559 นี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในเมืองไทยถึง 30 ล้านคน ในขณะเดียวกันยังมีรางวัลจูงใจให้คนไทยออกท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วย
อาจารย์ธรณ์บอกว่าท่านไม่ปฏิเสธการท่องเที่ยว แต่ท่านเห็นว่าการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวยังไม่มีประสิทธิภาพพอ ท่านลงภาพนักท่องเที่ยวและเรือที่ชายทะเลแหวก (เข้าใจว่าเป็นจังหวัดกระบี่ มีทะเลแหวกอีกแห่งหนึ่งที่ประจวบคีรีขันธ์) ให้ดู แม้จะเป็นภาพเล็กๆ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าจำนวนของนักท่องเที่ยวคลาคล่ำเบียดเสียดเยียดยัด
อาจารย์ธรณ์บอกด้วยว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลที่เห็นในภาพนั้นเป็นนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวนอกเทศกาล คือไม่ใช่ในวันหยุดราชการ และท่านตั้งข้อสังเกตด้วยว่า อุทยานแห่งชาติ (เข้าใจว่าหมายถึงอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่) มีเจ้าหน้าที่ไม่ถึง 10 คน และไม่มีเรือแม้แต่ลำเดียว ท่านถามว่าด้วยกำลังและอุปกรณ์เพียงเท่านั้น การดูแลทรัพยากรธรรมชาติและนักท่องเที่ยวจะทำได้หรือผมขอรับว่าผมไม่เคยตระหนักมาก่อนในปัญหาที่อาจารย์ธรณ์กล่าวถึงว่าหนักหนาสาหัสถึงเพียงนั้น เพราะผมไม่ชอบเที่ยวทะเลแต่ชอบภูเขามากกว่า แต่แม้จะเป็นภูเขาผมก็เห็นว่านักท่องเที่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติกำลังเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และถ้าหากรัฐบาลตั้งหน้าตั้งตาแต่จะส่งเสริมให้ทั้งชาวต่างประเทศและคนไทยท่องเที่ยวเมืองไทยกันให้มาก โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายอย่างอุทาหรณ์ที่อาจารย์ธรณ์ยกมาให้เห็น เมืองไทยก็จะถูกทำลายโดยการท่องเที่ยวในไม่ช้า
ผมเพิ่งกลับจากการไปทอดกฐินในภาคเหนือเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ระหว่างทางได้เห็นนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศอยู่ในเมือง นอกเมือง และบนภูเขา นักท่องเที่ยวเหล่านั้นเดินทางโดยรถโดยสารบ้าง รถยนต์ส่วนตัวบ้าง บางพวกใช้จักรยานยนต์ กล่าวได้ว่าแทบไม่มีตารางนิ้วใดของแผ่นดินไทยที่พ้นเท้าของนักท่องเที่ยวไปได้ ภูเขาลูกต่างๆ เต็มไปด้วยเต็นท์ของนักท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ต บ้านพักถูกจองหมด
ไม่ต้องสงสัยว่าการท่องเที่ยวทำให้เงินสะพัด และพ่อค้าแม่ค้าทั้งใหญ่และย่อยได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว แต่หากคำนึงถึงความเสียหายที่เกิดแก่ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประโยชน์เหล่านั้นจะคุ้มค่าหรือ?
ขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลกำลังเป็นปัญหาทั่วประเทศ เมืองที่เคยเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวอย่างเกาะสมุยกลายเป็นเกาะนรกที่เต็มไปด้วยขยะ เพราะนักท่องเที่ยวเอง และเพราะความไร้ประสิทธิภาพของเจ้าของบ้าน
เมื่อเดือนมีนาคมปีกลาย (2558) คณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งซึ่งอาจารย์ธรณ์เป็นประธาน ได้เสนอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้งสำนักอุทยานแห่งชาติทางทะเลขึ้นโดยเฉพาะ โดยแยกจากสำนักอุทยานแห่งชาติ และตั้งคณะกรรมการด้านยุทธศาสตร์อุทยานแห่งชาติทางทะเลขึ้นด้วย ประกอบด้วยตัวแทนทุกภาคส่วน คือ นักวิชาการ ผู้ประกอบการ และชุมชน เพื่อติดตามตรวจสอบสภาพทรัพยากรและบริหารจัดการการท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วม และที่สำคัญก็คือเพื่อพัฒนาระบบค่าธรรมเนียมมิให้รั่วไหล และลดทุจริตคอร์รัปชั่น
เรื่องนี้ได้ล่วงเลยมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้ว หากไม่มีการเร่งรัดให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นโดยเร็ว ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลจะถูกทำลายต่อไปโดยไม่มีผู้ใดดูแลยับยั้ง และเมืองไทยก็จะถูกทำลายโดยการท่องเที่ยวในที่สุด