30 องค์กรสื่อ ออกแถลงวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก จี้หยุดกฎหมายคุมสื่อ-ให้ยกเลิกคำสั่งคสช.ที่จำกัดเสรีภาพสื่อ

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม คณะทำงานสื่อเพื่อการปฏิรูป จาก 30 องค์กรวิชาชีพสื่อ ออกแถลงการณ์วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ระบุสถานการณ์เสรีภาพสื่อไทยอยู่ในภาวะไม่ปกติภายใต้ประกาศและคำสั่งของคสช. และพ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนที่เปิดโอกาสให้อำนาจรัฐแทรกแซงสื่อมวลชน ลิดรอนสิทธิการรับรู้ข่าวสารของสื่อและประชาชน

โดยแถลงการณ์ระบุว่า องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ได้ประกาศให้วันที่ 3 พฤษภาคมของทุกปีเป็น “วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก” เพื่อย้ำถึงเจตนารมณ์และหลักการที่เป็นพื้นฐานของเสรีภาพสื่อมวลชน ซึ่งคือเสรีภาพของประชาชน เพื่อให้มวลมนุษยชาติตระหนักถึงความสำคัญของสื่อมวลชนที่จะต้องมีเสรีภาพ
โดยตระหนักว่า สถานการณ์ทางด้านเสรีภาพของสื่อมวลชนไทยอยู่ในภาวะไม่ปกติภายใต้ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลายฉบับ อีกทั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. …. โดยเปิดทางให้อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงและควบคุมการทำหน้าที่สื่อมวลชน อีกทั้งยังเป็นการปิดกั้นและลิดรอนสิทธิการรับรู้ข่าวสารและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของสื่อมวลชนและประชาชน

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์และองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนอื่นรวม 30 องค์กรได้เห็นความสำคัญของวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลกและตระหนักถึงสถานการณ์ด้านเสรีภาพของสื่อมวลชนไทย จึงขอเสนอต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

Advertisement

1. ให้รัฐบาลยับยั้งร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. …. เพราะนอกจากจะเป็นร่างกฎหมายที่จำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชนและประชาชนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเนื้อหาที่ขัดกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560

2. ให้ยกเลิกบรรดาประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่มีเนื้อหาจำกัดเสรีภาพสื่อมวลชน เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มีเนื้อหารับรองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของและประชาชนไว้ชัดเจน

3. ให้สื่อมวลชนทุกประเภท พึงตระหนักว่า แม้รัฐธรรมนูญได้ให้หลักประกันในด้านสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนและสื่อมวลชน แต่การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมตามกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพโดยเคร่งครัดและพร้อมที่จะรับการตรวจสอบจากสังคม

4. ขอให้ประชาชนในฐานะผู้บริโภคข่าวสารมีส่วนร่วมในการตรวจสอบควบคุมการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนให้อยู่ในกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพอย่างเข้มข้น

5. องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ขอยืนยันว่า เสรีภาพของสื่อมวลชนมีความสำคัญต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การกระทำของทุกฝ่ายที่ละเมิดต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนและสื่อมวลชน เป็นสิ่งที่องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนไม่อาจยอมรับได้และจะต่อสู้เรียกร้องจนถึงที่สุด ทั้งนี้องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนมีความตั้งใจและความมุ่งมั่นที่จะทำให้กลไกกำกับดูแลกันเองทางด้านจริยธรรมที่มีอยู่แล้ว มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image