⦁…เล่นกันแรงจริงๆ กรณี เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตรัฐศาสตร์ ได้รับเลือกเป็น “ประธานสภานิสิตจุฬาฯ” แล้วมีกระแสโจมตีหนักหน่วง ต่างๆ นานา ขนาด บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังโดดเข้าร่วมวงด้วย บอกว่า “เนติวิทย์” ทำเสียสถาบัน
⦁…เรื่องอย่างนี้ ต้องใช้ “สติ” พิจารณาเป็นเรื่องๆ “สภานิสิตฯ” เป็นเรื่องของ “ประชาธิปไตยในมหาวิทยาลัย” เมื่อตัวแทนหรือ “ส.ส.” ซึ่งมาจากเลือกตั้งของแต่ละคณะ ลงมติเลือก “เนติวิทย์” เป็นประธานสภา ก็เป็นเรื่องของ “กฎกติกา” ของประชาธิปไตยในรั้วมหาวิทยาลัย ต่างจาก “โลกภายนอกมหาวิทยาลัย” ที่อยู่ในระบบแต่งตั้ง-ลากตั้ง
⦁…การที่ “เนติวิทย์” มีจุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างออกไป และมี “ทรรศนะ” ที่ไม่เหมือนรุ่นพี่บางกลุ่มบางคน ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเห็นต่างก็ถกเถียงกันด้วยเหตุด้วยผล สติปัญญาและหลักวิชา ไม่ใช่เอาความเป็น “รุ่นพี่” เข้าข่ม สภานิสิตจุฬาฯน่าจะเปิดเวที เชิญ “คนนอก” หรือ “รุ่นพี่” ที่ตั้งท่าเป็น “รุ่นใหญ่” วางท่าสอนน้อง ไป “ดีเบต” ปัญหาต่างๆ กับรุ่นน้อง คนนอกมหา’ลัย คงอยากเห็นเหมือนกันว่า ความคิดใครจะเป็น “ผู้ใหญ่” เป็นหลักเป็นเกณฑ์มากกว่ากัน
⦁…เดือนพฤษภาคมเมื่อ 3 ปีก่อน หรือเมื่อ 2557 คือเดือนแห่งการเปลี่ยนแปลง เมื่อ “กองทัพ” ลุกขึ้นยึดอำนาจในวันที่ 22 พ.ค.2557 หลังจาก “กปปส.” นำโดย เทพเทือก-สุเทพ เทือกสุบรรณ และทีมงาน จัดชุมนุมชัตดาวน์ โดยมี “คนชั้นกลาง-ข้าราชการ-มหาวิทยาลัย” เข้าร่วมอย่างคึกคัก ขับไล่รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วยข้อหา “ทุจริต” จากกรณีจำนำข้าวและใช้อำนาจมิชอบ พยายามออก “ร่าง กม.นิรโทษกรรมยกเข่ง”
⦁…3 ปีผ่านไป การรัฐประหารเพื่อ “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” ยังไม่เรียบร้อย แต่มี “รัฐธรรมนูญ 2560” ที่เรียกกันว่า “ฉบับปฏิรูป” มีบทเฉพาะกาล ออกแบบการเมืองในระยะ “5 ปีแรก” เอาไว้เรียบร้อย การเมือง 5 ปีแรก แม้จะมีเลือกตั้ง แต่ “นายกฯ” มาจาก “คนนอก” ได้ อำนาจของฝ่ายการเมืองจะต้องถูก “แชร์” โดย 250 ส.ว.-ข้อกำหนดเรื่อง “ปฏิรูป-แผน
ยุทธศาสตร์ 20 ปี”
⦁…ส่วนผลงานของ “คสช.” และ “รัฐบาล” ถือว่า “โดดเด่นสุด” ในมิติเรื่อง “ความมั่นคง” เพราะ “นิ่ง-เงียบ” ไปหมดทั่วทั้งยุทธจักร แต่ในเรื่อง “เศรษฐกิจ-การเมือง” ยังเหนื่อย เอกชนยังไม่ยอมลงทุน ขณะที่การปรองดอง ยังเป็น “ปรองดองเวอร์ชั่นราชการ” อยู่ เรื่อง “ความพยายาม-ความตั้งใจ” นั้นเห็นได้ชัดอยู่ แต่ต้องยอมรับว่า “ข้อจำกัด” ก็มีมากจริงๆ
⦁…ถ้ามุ่งมั่นจะเอา “ผลงาน” กันจริงๆ รัฐบาลควรจะต้อง “ปรับทีม” ใหม่ เพราะทีมงาน-ผู้เล่นตอนนี้ ก็เหมือนฟุตบอลที่มีแต่ “กองหลัง” อุดประตูแน่นเหนียว แต่จะไปหวังเรื่อง “สร้างสรรค์เกมหรือยิงประตู” คงไม่ได้ ดูอย่าง “ระบบราง-รถไฟ” แรงหนุนมีทั่วทั้งสังคม หาคนค้านไม่ได้ แต่ขยับไม่ออก เพราะยังติดวิธีคิดแบบราชการ ถ้าไม่เปลี่ยนตัวบุคคล ก็คงยากที่ก้าวข้ามวิธีคิดเดิมๆ ไปได้
⦁…ขอแก้ข่าว กรณี “มติชน” อ้างอิงคำพูดของ วรพจน์ วิศรุตพิชญ์ รองประธานศาลปกครองสูงสุด ในการสัมมนาทางวิชาการเนื่องในวาระศาลรัฐธรรมนูญครบรอบ 19 ปี หัวข้อ “มิติของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” เมื่อวันที่ 3 พ.ค. กล่าวถึง
การเลือกตั้งแบบแบ่งสรรปันส่วน ตามรัฐธรรมนูญใหม่ ว่าไม่มีประเทศไหน ในโลกทำนั้น ผิดพลาดคลาดเคลื่่อน เพราะ “รองประธานฯวรพจน์” ไม่ได้กล่าวเช่นนั้น คำพูดที่ถูกต้องคือ “… ตั้งแต่เรียนหนังสือมา ยังไม่เคยอ่านเจอระบบการเลือกตั้งแบบแบ่งสรรปันส่วนในตำราที่ผมอ่าน ผมอาจจะโง่ก็ได้ เชื่อว่า กรธ.คงไม่ได้จินตนาการขึ้นเอง คงจะมีที่ไหนสักแห่ง อาจจะเป็นชนเผ่าใดเผ่าหนึ่งก็ได้” ขอได้เข้าใจตามนี้ด้วย
กาแฟป่า
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่