⦁…ออกรายการทีวีคืนวันศุกร์ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถล่มหนักกลุ่ม “บิดเบือน” ใช้ “วาทกรรม” สร้างความเข้าใจผิดๆ พร้อมกับยืนยัน รัฐบาลตั้งใจทำงานแก้ปัญหาทุกด้าน โดยเฉพาะ “เกษตรกร” ฯลฯ ถือเป็น การเข้าสู่ปีที่ 3 ของ “คสช.” และรัฐบาล ที่มี “อุณหภูมิ” ระอุอ้าวอยู่
พอสมควร
⦁…3 ปีของ “คสช.” บรรลุเป้าหมายด้วยดี หรือผลเป็นตรงข้าม ก็ต้องดู มาส่องดูกันว่า “สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง” ของประเทศไทยเป็นอย่างไร “ดีขึ้น” หรือ “แย่ลง” ก็ต้องยอมรับว่า รัฐบาลทำงานหนักและตั้งใจ ขยันออกมาตรการ และพยายามอธิบายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่
ประชาชนก็ยอมเสีย “สิทธิ” สละ “เสรีภาพ” หลายๆ อย่าง เพื่อให้รัฐบาลได้ทำงานเต็มที่ เรียกว่าต่างฝ่ายต่าง “เหนื่อย” ส่วนผลจะออกมาอย่างไร ก็ต้อง “ยอมรับ” กัน และช่วยกันระดมความคิด หาทางแก้ไขกันไป
⦁…คสช.ก้าวเข้ามาแทนที่ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” เมื่อ 22 พ.ค.2557 แบก “ความหวังก้อนโต” ว่าจะเข้ามาจัดระเบียบแก้ปัญหาที่ “ชนชั้นกลาง-ชนชั้นสูง” เห็นว่า “นักเลือกตั้ง” ทำประเทศชาติล่มจมในมิติต่างๆ ซึ่งที่จริง “ไม่ได้มีอะไรมาก” แต่เป็น “ความแค้น” ที่ “พรรคเพื่อไทย” เครือข่ายของ “ทักษิณ” กลับมาผงาดได้อีก ทั้งที่ “จัดหนัก” ไปหลายตุ้บ ตั้งแต่ “ปฏิวัติ 2549” และ “มาตรการสารพัด” จาก “องค์กรอิสระ-องค์กรตามรัฐธรรมนูญ”
⦁…วันเวลาผ่านไป 3 ปี “เครือข่ายทักษิณ” ยังกลับมา “ชูคอ” อีก แถมประเมินกันว่า “เลือกตั้ง” เมื่อไหร่ ก็จะ “คืนชีพ” กลับมาอีก เป็นโจทย์ ที่ยังทิ่มแทงใจ สำหรับ “เครือข่ายทักษิณ” มีทั้งตัวจริง-ตัวปลอม อย่างพรรคเพื่อไทย นี่ต้องใช่, แต่พรรคที่เคยร่วมกับทักษิณ ซึ่งร่วมไปตามกระแสการเมือง กลับถูก “จองเวร” ไปด้วย ทำให้การเมืองยิ่งยุ่ง ไหนยังกลุ่มที่เจอข้อหา “แม้วซื้อไปแล้ว” เรียกว่า “ถูกถีบ” ให้เป็นเครือข่ายทักษิณ ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แล้วฉวยโอกาส “กวาดล้าง” เทลงท่อ
⦁…เรื่องยากคือ พรรค-กลุ่มที่ขั้วอำนาจมองว่าเป็น “เสี้ยนหนาม” ล้วนมีฐานประชาชนสนับสนุน ก็เลยต้องไปกล่าวหาชาวบ้านอีกว่า “โง่” ถูกหลอกถูกซื้อให้เลือก ฯลฯ นี่คือ 1 ใน “รากฐาน” ความขัดแย้งของการเมืองไทย ที่จะแก้ไขให้เกิดความปรองดองได้ยาก ถ้าไม่แก้ทรรศนะพื้นฐานบิดเบี้ยว และถูกแพร่กระจายไปไกล
⦁…เพื่อสร้าง “ความชอบธรรม” ในการ “กวาดล้าง” เครือข่ายทักษิณ ก็ต้องสร้าง “ข้อกล่าวหา” ต่างๆ ขึ้นมา จริงบ้าง-มั่วบ้าง ที่โดดเด่นคือเรื่อง “โกง” แต่เวลาผ่านไป ก็ชักงงๆ แล้วว่า ใครโกงกันแน่ เพราะ 3 ปีมานี้ นักการเมืองติดบ่วงคดี แต่ “ข่าวโกง” ก็ยังไม่สิ้นไปจากสังคมไทย มีกระทั่ง “ผู้นำหน่วยงานปราบโกง” เจอคดีเอง บางเรื่อง “องค์กรปราบโกง” เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ซะงั้น
⦁…การใช้ “รัฐประหาร” แก้ปัญหาการเมือง ได้ “พิสูจน์” มาหลายรอบแล้วว่า “ยาแรง” ขนานนี้ อาจหยุด “อาการ” บางอย่างได้ชั่วคราว แต่แก้โรคร้ายไม่ได้ ตัวอย่าง ถ้าต้องการแก้ “คอร์รัปชั่น” ก็ต้องสร้าง “สังคมที่โปร่งใส” มีการตรวจสอบจาก “ทุกฝ่าย” การสร้าง “อภิสิทธิ์ชน” มาแก้ปัญหา สุดท้ายจะเกิดปัญหาการใช้อำนาจที่ขาดการตรวจสอบ พากัน “ออกทะเล” ไปทั้งหมด แต่ก็นั่นแหละ การเมืองรอบนี้ จึงเป็นการทดลองครั้งสำคัญอีกครั้ง เพื่อหาคำตอบอีกครั้งว่า การรัฐประหารหรือวิธีการพิเศษ จะแก้ปัญหาการเมืองได้หรือไม่
⦁…ส่วนการจะ “ก้าวเดิน” ต่อไป รัฐบาลและ “คสช.” อาจต้องคิดถึงการปรับทีมให้สอดคล้องกับ “งาน” และ “เป้าหมาย” เพราะพ้นช่วงที่ปัญหาความมั่นคงรุมเร้ามาแล้ว ตอนนี้โจทย์ชัดว่า ประชาชนอยากให้แก้เรื่องไหน บางคนอาจเหมาะกับ “บางช่วงเวลา” แต่ในสถานการณ์ใหม่ โจทย์ใหม่ การให้บางคนนั่งรับผิดชอบต่อไป ผลที่ตามมาจะกระทบทั้งคณะ และกระทบ “การแก้ปัญหา” อีกด้วย
กาแฟป่า