| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|
แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงกรณีที่อธิบดีกรมสรรพากรไปออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เมื่อเย็นวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมว่ามีความเหมาะสมหรือไม่เนื่องจากนายสรยุทธถูกศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก 13 ปี 4 เดือน จากคดียักยอกเงินนั้น ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้สั่งการให้คณะทำงานมีการตรวจสอบว่าเหตุใดอธิบดีกรมสรรพากรจึงไปออกรายการดังกล่าว จนพบว่าที่มีการออกอากาศเป็นการบันทึกเทปเอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะมีการตัดสินของศาล
โดยเหตุผลที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้มีการตรวจสอบเนื่องจากไม่ได้ต้องการตำหนิอธิบดี และก็ไม่ต้องการที่จะซ้ำเติมนายสรยุทธที่ได้รับคำพิพากษา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการส่งสัญญาณให้ข้าราชการทุกหน่วยงานให้ระมัดระวังในการวางตัวและใช้วิจารณญาณอย่างมากในการให้สัมภาษณ์หรือออกรายการกับสื่อมวลชนโดยเฉพาะสื่อมวลชนที่กระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในด้านลบในเรื่องของจริยธรรม เพราะแม้ว่ากรณีของนายสรยุทธกระบวนการยุติธรรมจะยังไม่ถึงที่สิ้นสุด แต่ถือว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาออกมาแล้ว ซึ่งก็มีความมัวหมองในการทำหน้าที่สื่อ ดังนั้น ข้าราชการเองต้องเป็นตัวอย่างในการเคารพกฎหมายและตระหนักถึงจริยธรรมและความมีธรรมาภิบาล เพื่อไม่ต้องการให้สังคมวิจารณ์ในด้านลบถึงความเหมาะสมในการวางตัวของข้าราชการด้วย เพราะรัฐบาลเองก็มีนโยบายในการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง
“ดังนั้น เรื่องห้ามข้าราชการไปออกรายการของนายสรยุทธ นั้นคงไม่ต้องออกเป็นคำสั่งหรือหนังสือเวียนอะไร แต่ควรดูความเหมาะสม รวมทั้งการที่หน่วยงานราชการหลายหน่วยงานยังเปิดช่อง 3 แช่ไว้ทั้งวันก็คงไม่ต้องออกหนังสือเวียนอะไร ซึ่งไม่ได้เป็นการลิดรอนสิทธิและเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสาร แต่อยากให้ข้าราชการทุกหน่วยงานพิจารณาความเหมาะสมให้มากขึ้นว่าเหมาะสมหรือไม่” แหล่งข่าวใกล้ชิดนายกฯระบุ
