เมื่อเวลา 05.50 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมระดับสูงของประมุขรัฐและหัวหน้ารัฐบาลในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่21และการประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโตสมัยที่ 11 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม ถึงกรณีองค์กรการบินพลเรือนของสหรัฐอเมริกา หรือ FAA ประกาศลดระดับมาตรฐานการบินพลเรือนไทยจาก Category 1 เป็น Category 2 ซึ่งหมายถึงอยู่ในบัญชีเฝ้ามองและห้ามเครื่องบินของไทยบินตรงเข้าสหรัฐอเมริกา รวมทั้งขยายเส้นทางการบินเพิ่มว่า ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่เขาดูอยู่ อย่าขยายความ เพราะถ้าขยายความไปเรื่อยๆก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น และทางเราก็ต้องมาดูว่ายังมีจุดใดที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งตนได้ข่าวมา 2 วันแล้ว และได้สั่งการไปเรียบร้อยแล้ว ขยายความไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อประเทศไทยไม่มีเส้นทางการบินไปยังสหรัฐฯแล้วจะส่งผลกระทบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “อ๋อ เหรอ แล้วถ้าไม่มีมันจะกระทบหรือไม่”เมื่อถามว่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ใช่สิ ถ้าไม่ผ่านกติกาแล้วจะมีได้อย่างไร ก็ต้องช่วยกันสร้างหน่อยสิ ผมเองพยายามสร้างให้บ้านเมืองนี้มันเรียบร้อย มันสงบ ก็ช่วยกันบ้างสิ ขยายความไปอย่างนั้นอย่างนี้ มีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ เมื่อไหร่จะหลุดพ้นตัวเองกันเสียทีนะประเทศไทย มัวแต่ทะเลาะกัน แล้วแก้ไขอะไรได้ไหม เสียเวลาเปล่า ทุกเรื่องเลย แล้วก็บอกว่าทำไม่สำเร็จ ก็มันไม่ช่วยกันไงเล่า อย่างนั้นก็ขยายกันต่อไป ทะเลาะกันไปก็แล้วกัน เขาก็ไม่เชื่อวิธีการแก้ไข ต่อให้แก้ดีอย่างไรเขาก็ไม่เชื่อ เพราะมัวทะเลาะกันทั้งประเทศ ทะเลาะแค่คนไม่กี่คนนี่แหละ สงสารคนอื่นเขาบ้าง สงสารคนไทยที่เหลือบ้าง คนที่เขาดีๆ คนยากจน ยากไร้ คิดถึงคนที่เขาทำงานบ้าง ไม่ใช่ทุกอย่างเป็นการเมืองไปหมดเสียทุกเรื่อง ทำไม จะเป็นจะตายกันหรืออย่างไรที่ไม่ได้เป็นนักการเมือง