กรณีทหารบุกไป “อุ้ม” ตัว นายวัฒนา เมืองสุข จากหมู่บ้านสินเก้า ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ
สะท้อน “ความจริงใจ”
สะท้อนลักษณะ “ตรงไปตรงมา” ไม่อ้อมค้อมแบบชายใน “เครื่องแบบ” ของ “คสช.”
เป็นความไม่พอใจจาก “ข้อความ” อันปรากฏเป็น “ข่าว”
แม้บทสรุปในเบื้องต้นอันมาจาก “คสช.” จะเน้นอย่างหนักแน่นและจริงจังว่า
เป็นความเห็นในลักษณะ “กล่าวหา” พาดพิงบุคคลใน “องค์กร” อื่น
ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจ”คสช.”คลาดเคลื่อน
“เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องดูแลสถานการณ์ให้เกิดบรรยากาศที่สงบเรียบร้อยที่สุด
การให้ความเห็นใดๆ ของนายวัฒนาที่ไม่มีข้อพิสูจน์ชัดเจนควรต้องระมัดระวัง
และอะไรที่ดูเกินกว่าขีดระดับที่เจ้าหน้าที่ประเมินไว้ก็จำเป็นต้องตักเตือนและปรับความเข้าใจกันบ้าง
โดย “อำนาจ” ที่มีอยู่ในมือ “คสช.” สามารถทำได้
แม้กระทั่ง การกักขังตัว นายวัฒนา เมืองสุข เอาไว้ในมทบ.11
เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันอย่างที่มีการแถลงก็สามารถทำได้
แต่คำถามก็คือ หากทำแล้วจะ “คุ้ม” หรือไม่
หากทำแล้วจะเป็น “ผลดี” จะทำให้ “ภาพลักษณ์” ของคสช.ดีขึ้น
ได้รับความนิยมและเชื่อถือจากประชาชนเพิ่มขึ้นหรือไม่
ยังน่าสงสัย
ความน่าสงสัยนี้ หากยิ่งนำไปเปรียบเทียบกับความพยายามหลายครั้งของ “คสช.” ในมาตรการอย่างเดียวกันนี้
อย่างเช่นการจับตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่ตลาดมหาชัย
อย่างเช่นการสกัดขัดขวางมิให้กลุ่มนักศึกษา ประชาชน สามารถเดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์
กระทั่งมีการออกหมายเรียก ออกหมายจับ
อย่างเช่นการส่งคนไป”เฝ้า”หน้าบ้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
อย่างเช่นการส่งเจ้าหน้าที่ทหารไปเชิญตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ จากสถานีโทรทัศน์พีซทีวีเข้าไปในค่ายทหาร
กระทั่ง การอุ้มตัว นายวัฒนา เมืองสุข ล่าสุด
ถามว่าเมื่อลงมือทำไปแล้วประสบผลสำเร็จมากน้อยเพียงใด สามารถทำให้”ทัศนคติ”ของคนเหล่านี้เปลี่ยนแปลงได้มากน้อยเพียงใด
คำตอบก็คือ ไม่มีอะไร “เปลี่ยนแปลง”
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็ดี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็ดี ยังแสดงออกแบบที่เคยแสดงออก
ไม่มีอะไรไปโยกสั่น หวั่นไหวได้
บรรดานิสิตนักศึกษา ไม่ว่าจะเป็น “จ่านิว” หรือ “น้องลูกเกด” ก็ยังเคลื่อนไหวอยู่เหมือนเดิม
และพูดด้วย”น้ำเสียง”ที่เหมือนเดิม
เช่นเดียวกับ นายวัฒนา เมืองสุข เมื่อได้รับการปล่อยตัวก็แถลงผ่านสำนักข่าวบีบีซีเหมือนกับที่เคยโพสต์ เคยพูด
เคยเห็น”ต่าง”อย่างไรก็เห็น”ต่าง”อย่างนั้น
ไม่ว่าจะเรียกตัวไป”ปรับทัศนคติ” อย่างไร นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็ไม่เปลี่ยน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็ไม่เปลี่ยน
“จ่านิว”และ”น้องลูกเกด” ก็ไม่เปลี่ยน
ยิ่ง นายวัฒนา เมืองสุข ถูกทั้งส่งคนไป “ชกหน้า” ถูกทั้งห้ามไม่ให้เดินทางไป “ต่างประเทศ”
ก็ยัง “ร้องเพลง” ด้วย “ทำนองเดิม”
ผลสะเทือนของ “คสช.” ต่อบุคคลเหล่านี้จึงไม่มีฤทธานุภาพใดๆ ทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นมาตรการแบบใด ตรงกันข้าม “ชาวบ้าน” จะ “รู้สึก” อย่างไร
รู้สึกอย่างไรกับ”มาตรการ”ซ้ำซากตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 ของ”คสช.”
