เมื่อวันที่ 4 มีนาคม เวลา 09.10 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมทนายความมาที่ศาลฎีกาฯ เพื่อร่วมฟังการนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์เป็นครั้งที่ 4 คดีโครงการรับจำนำข้าว กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการ ซึ่งมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย อดีตส.ส.และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และอดีต รมว.คลัง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และอดีตรมว.ต่างประเทศ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีตรมช.สาธารณสุข นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีตส.ส.กทม. เข้าให้กำลังใจ นอกจากนี้ยังมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย (บกน.2) เฝ้าระวังความปลอดภัย เนื่องจากวันนี้มีพยานฝ่ายโจทก์ ประกอบด้วย นายวิชา มหาคุณ อดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเบิกความเป็นพยาน
สำหรับบรรยากาศที่หน้าศาลฎีกาฯ เป็นไปอย่างคึกคัก มีมวลชนรอให้กำลังใจจำนวนมาก ทันทีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาถึงประชาชนต่างตะโกนโห่ร้องให้กำลังใจ “นายกฯ ยิ่งลักษณ์ สู้ๆ” พร้อมมอบดอกกุหลาบสีแดงให้
ขณะที่ฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเดินทางมารับฟังการนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ ทั้งนพ.วรงค์ นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และแกนนำกปปส. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินเข้าประตูศาลได้มีมวลชนคนเสื้อแดงโห่ไล่ ขณะเดียวกันทางกลุ่มมวลชนที่มาให้กำลังใจทาง นพ.วรงค์ฝ่ายโจทก์ประมาณ 300 คน ทางเจ้าหน้าที่ได้กันให้อยู่อีกฟากหนึ่งของอาคารบริเวณสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น
ด้าน นพ.วรงค์ให้สัมภาษณ์ก่อนการไต่สวน ว่า ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เตรียมคำถามซักค้านตน 59 คำถาม และคำถามย่อยกว่าร้อยคำถาม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไต่สวนกว่า 6-7 ชั่วโมง ทั้งนี้มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะได้ติดตามข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวอย่างต่อเนื่อง และพร้อมยิ่งกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ใน ปี 2555 ที่ผ่านมา
