ไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ล้วนมีความแจ่มชัด
แจ่มชัดใน “สถานะ”
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แจ่มชัดว่า ตนเองหมดโอกาสที่จะมีตำแหน่งใดๆในทางการเมือง
มาตรการ”ถอดถอน” คือ “จุดตัด”
อย่างน้อยนับแต่ปี 2558 เรื่อยไปจนถึงปี 2563 มีความจำเป็นต้อง “เว้นวรรค”
เท่ากับต้องเปิด”โอกาส”ให้”คนอื่น”
ขณะเดียวกัน “คนอื่น”ในที่นี้มิได้หมายความว่าจะเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คนเดียว
เรื่องนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ชัด
ถามว่าเหตุใดเมื่อประสบเข้ากับคำถาม”อนาคต”ของพรรคเพื่อไทยเหตุใด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องโยนคำถาม
ไปให้กับ นายภูมิธรรม เวชยชัย
“ขณะนี้ยังไม่เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม ดังนั้น ทุกอย่างยังไม่มีความชัดเจน แต่วันนี้แกนนำพรรคทั้งหลายเราก็ช่วยกันประคับประคองเท่าที่กฎหมายจะเอื้ออำนวยให้เราทำ
“ตราบใดกฎหมายยังไม่ชัดเจนก็จะเป็นข่าวไปแบบนี้ แต่หากกฎหมายชัดเจนเมื่อใดคงจะได้มีการคุยกัน”
เรื่องนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เองก็เข้าใจ
“การกำหนดวันเลือกตั้งของผู้มีอำนาจยังไม่แน่นอน ยังไม่รู้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี 2561 หรือ 2562 ทุกอย่างเป็นไปได้หมด”
ตอบอย่างคนเข้าใจ”การเมือง”
ก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 ไม่มีใครคาดคิดว่าหัวหน้า พรรคพลังประชาชนจะเป็น นายสมัคร สุนทรเวช
เช่นเดียวกับก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเป็นผู้สมัครหมายเลข 1 ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย
เพราะว่าเป็นเรื่องของ “การเมือง”
การเมืองขึ้นอยู่กับแต่ละ “สถานการณ์” การเมืองขึ้นอยู่กับ ความเหมาะสม
เรื่องนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มองทะลุ
