⦁…“ราหู” ขยับย้าย สังคมป่วนๆ อยู่หลายจุด หนักสุดได้แก่ “อีสาน” แผ่นดินที่ราบสูงของประเทศ ที่โดน “น้ำท่วม” เป็นวงกว้าง ณ เวลานี้ก็ยังท่วมกันอยู่ เป็น “ปัญหาใหญ่” ที่แก้ไขไม่ตก เพราะการแก้ไขปัญหา กลายเป็น “การเมือง” ที่นักการเมืองหยิบเอาไปฟาดฟันกัน เพราะกลัวอีกฝ่ายได้ “คะแนนนิยม”
⦁…นายกฯตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดในรายการ “ศาสตร์พระราชา” ศุกร์ที่ผ่านมา ถึง “แผนจัดการน้ำ” โดยเฉพาะการระบายน้ำ ที่มีปัญหาด้วย “ผังเมือง” ก็เป็นเรื่องที่ดี หากจะหยิบเอาแผนงานเก่ามาปัดฝุ่น หรือจะคิดค้นกันขึ้นมาใหม่ จะแบบไหน น่าจะต้องเลือกกันสักทาง
⦁… หลัง “น้ำท่วมใหญ่ 2554” ต้นปี 2555 รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” ออก พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตของประเทศ รัฐสภาลงมติรับรอง มีผล 26 ม.ค.2555 มีการคลอดแผนน้ำ วงเงินกู้ “3.5 แสนล้านบาท” เกิดเสียงเอะอะว่า “เอื้อประโยชน์” ต่างชาติบ้าง
เอกชนบ้าง ไม่มีการ “เฮียริ่ง” จนมีเรื่องฟ้องร้อง “ศาลปกครอง”
⦁… กรณี “น้ำท่วม” มีชะตากรรมคล้ายๆ “ระบบราง” ที่ “ตกราง” ไป หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า “ขัดรัฐธรรมนูญ” สุดท้าย รัฐบาลหลังๆ ต้องมา “ยกกลับขึ้นราง” ด้วยราคาค่างวดที่ “แพงหูฉี่” แผนน้ำรอบนี้ จะดำเนินการอย่างไร ใช้งบประมาณกันแบบไหน เป็น “บทเรียน” ที่ร่ำเรียนกันด้วยความเสียหายของประเทศ
⦁… อดีต-ปัจจุบันสัมพันธ์กันแนบแน่น ศาลฎีกาฯ ยกฟ้อง “คดีสลายม็อบ 7 ต.ค.51” ระบุว่า “การชุมนุม” ของพันธมิตรขณะนั้น ไม่ได้เป็นไป “อย่างสงบ” และ “4 จำเลย” นำโดย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สั่งสลายม็อบตามขั้นตอนไม่ผิด “ม.157” เพราะไม่มี “เจตนาพิเศษ” ให้เกิดการ “สูญเสีย”
⦁… เหตุการณ์ที่พ่วงกันอยู่ คือการ “ยึดทำเนียบ-ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง” ที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศโดยรวมอย่างหนัก เพื่อจะไล่ “รัฐบาลพรรคพลังประชาชน” อันเป็นพรรคในขั้ว “ทักษิณ” และทำได้สำเร็จ จึงตามมาด้วยการถือกำเนิดของ “เสื้อแดง” ที่ยึดพื้นถนน-ยึดราชประสงค์ ขับไล่ “รัฐบาล ปชป.” ที่ขึ้นสู่อำนาจแทน แต่ “เสื้อแดง” เจออะไรเข้าไปบ้าง ที่เห็นๆ คือ “กว่า 100 ศพ” จากเหตุการณ์ปี 2552 และ 2553
⦁… แลหลังแล้วเหลียวหน้า กม.สำคัญ 2 ฉบับ บังคับใช้แล้วตั้งแต่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา คือ “พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2560” และ “พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ” จากนั้นไป เป็นรายการ “ฝุ่นตลบ” …คือการแต่งตั้งบิ๊กล็อต “กก.ยุทธศาสตร์ชาติ” และ “กก.ปฏิรูปในแต่ละด้าน”
⦁…“กก.ยุทธศาสตร์” ล็อกตามตำแหน่ง 17 เก้าอี้ นายกฯ เป็นประธาน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อีก 17 คน และให้กรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติชุดใหญ่ ไปตั้งชุดเล็ก คือ “กรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติแต่ละด้าน” อีกหลายคณะ คณะละ 15 คน ทั้งหมดนี้ต้องทำให้เสร็จภายใน 30 วันหลังจาก กม.มีผลบังคับใช้
⦁… ส่วน “กก.ปฏิรูป” มี 11 คณะ 11 ด้าน คณะละ 14 คน “นายกฯตู่” ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ ในทีวีค่ำวันศุกร์ บอกว่า จะให้ “คนรุ่นใหม่” เข้ามามีบทบาทร่วมกับ “ผู้อาวุโส” ครม.จะตั้ง กก. 11 ชุด รวม 154 รายชื่อ ภายใน 15 วันนับจาก 31 ก.ค. ก็ต้องจับตาดูว่า ผลการแต่งตั้ง 154 อรหันต์ “หน้าตา” จะออกมา “จิ้้มลิ้ม-ไฉไล” หรือ “ร่วงโรย-หน้าช้ำ” จากบทบาท “ห้อย-โหน” ประการใด
กาแฟป่า
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่