ไม่ต้องรอดูสถานการณ์อ่านคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 25 สิงหาคม หรอก
แค่วันที่ 2 สิงหาคมก็พอมองออก
“ปฏิกิริยา” อันมาจากเหล่า “พันธมิตร” บริเวณหน้าศาล ปรากฏออกมาอย่างเด่นชัด
ท่ามกลางอาการ “ตื่นตะลึง” ของ “ตำรวจ”
หากเปรียบเทียบกับการเดินทางมาของแฟนานุแฟน น.ส.ยิ่ง ลักษณ์ ชินวัตร แตกต่างกันเป็นอย่างมาก
ยิ่งท่าที “พันธมิตร” ในการประชุมวันที่ 4 สิงหาคม ยิ่งเปิดเผย
คดีสลายการชุมนุมเมื่อเดือนตุลาคม 2551 กำลังจะกลายเป็น “เผือกร้อน”
อาจลวกและไหม้ไปถึง “คสช.”
ปมเงื่อนมิได้อยู่ที่ว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองจะ “พิพากษา” ออกมาอย่างไร
หากอยู่ที่ “ป.ป.ช.”
เพราะว่าคนที่ทำ “สำนวน” เป็น “ป.ป.ช.” ชุดก่อน มิใช่ “ป.ป.ช.” ชุดปัจจุบัน
เพราะคดีนี้ “อัยการสูงสุด” ไม่เห็นชอบ “ส่งฟ้อง”
คำถามที่ “ป.ป.ช.” ต้องเลือกนั้นไม่เพียงแต่ฟ้องให้เห็นกระ บวนการทำงานของ “ป.ป.ช.”
เพียงแต่คนละชุด
หากที่สำคัญยังนำไปสู่การเปรียบเทียบกับคดีสลายการชุมนุมเมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 โดย “อัตโนมัติ”
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็น “กรรม” อันมีลักษณะ “ต่อเนื่อง”
เพราะว่าคดีแรกเป็นการสลายการชุมนุมเมื่อเดือนตุลาคม 2551 ขณะที่อย่างหลังเป็นการสลายการชุมนุมเมื่อเดือนเมษายน พฤษ ภาคม 2553
เป็นผลจาก “รัฐประหาร” สัมพันธ์กับ “รัฐประหาร”
นั่นก็คือ รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 นั่นก็คือ รัฐประ หารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2553
การเปรียบเทียบจึงบังเกิดขึ้น เป็นการเปรียบเทียบกับสภาพที่ “พันธมิตร” ได้รับ เป็นการ เปรียบเทียบกับสภาพที่ “นปช.” ได้รับ
เหมือนกับทุกอย่างอยู่ในมือ “ป.ป.ช.” แต่เป็นเช่นนั้นจริงหรือ