⦁…สถานการณ์ “อุทกภัย” ยังหนักหนาสาหัสในหลายจังหวัด การทุ่มเทช่วยเหลือ ให้ “เห็นน้ำใจกัน” ย่อมสร้างความอุ่นใจ และวิกฤตชีวิตของหลายครอบครัวคราวนี้ จะเป็นบทเรียนสำคัญให้รับรู้ด้วยประสบการณ์ตรงว่า “โครงสร้างอำนาจการเมืองแบบไหน” ที่ “ประชาชนพึ่งพาอาศัยได้ดีกว่า” ยามประชาชนทุกข์ยาก “ใครเดือดร้อนไปด้วย-ใครไม่ดูดำดูดีเท่าที่ควร” สำหรับประชาชนยามนี้คงทำอะไรได้ไม่มากกว่า “จำไว้”
⦁…ประเพณีในแวดวงมหาวิทยาลัย ย่อมสะท้อน “พัฒนาการ” ว่า “เท่าทันความเปลี่ยนแปลงไปของโลกหรือไม่” 50-100 ปีก่อนหน้านี้ “โลกเคลื่อนไปด้วยสงครามแย่งชิงดินแดนและทรัพยากร” การรักษา “ความสมัครสมานสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียว” คือความจำเป็น ค่านิยมในคุณธรรม “กตัญญูรู้คุณ เสียสละ มีวินัย อดทน” ย่อมเหมาะควร การอยู่ร่วมในระบบ “โซตัส” เอารุ่นพี่รุ่นน้องมาเป็น “ชนชั้น” ต้องเคารพ เป็นวิธีบ่มเพาะนิสัยที่เป็นประโยชน์ต่ออนาคต แต่วันที่โลกเคลื่อนไปด้วย “นวัตกรรม” คุณธรรมที่เหมาะสมกว่าคือ “ความคิดสร้างสรรค์” นั่นหมายถึงต้องกระตุ้นให้หลุดจากกรอบเดิมๆ ถ้ายังไม่เข้าใจตรงนี้ พล่ามถึง “4.0” มากมายด้วยเสียงเพียงใดดังแค่ไหน ก็ “ไร้โอกาสจะเป็นจริง”
⦁…น่าชื่นชมยินดี ในขณะที่ยังมีหลายมหาวิทยาลัย ต้อนรับ “เพื่อนร่วมสถาบันรุ่นใหม่” ด้วยการ “ใช้อำนาจบังคับด้วยประเพณีรับน้องด้วยความรุนแรง” ที่ “วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สระแก้ว” ต้อนรับ “น้องใหม่” ด้วยการพาไป “ร่วมกับชาวบ้านซ่อมฝายกันน้ำ” อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ สร้างค่านิยมให้เห็นว่า “ควรปลูกฝังการมีส่วนร่วมไว้เป็นนิสัย” ย่อมสร้าง “คนที่เหมาะสมกับโลกยุคใหม่มาให้ชุมชนประเทศชาติ”
⦁…คำสั่งล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แถลงผ่าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด คือให้ “เอาจริงเอาจัง” กับ “สถานบันเทิงใกล้สถาบันการศึกษา” ที่จัดโปรโมต “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” หวังสร้าง “นักดื่มรุ่นใหม่” สะท้อนถึง “ความเป็นห่วงเป็นใยคนรุ่นใหม่ของท่านผู้นำยังมีเต็มเปี่ยม” เพียงแต่ให้ความสำคัญกับ “ขี้เมาหรือไม่” มากกว่า “งมงาย หลุดโลกหรือเปล่า”
⦁…ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ สั่งเดินหน้า “สร้างความมั่นคงให้ประเทศ” ด้วยคำสั่งไล่ล้าง “ผู้มีอิทธิพล” และ “นักค้ายาเสพติดและอาวุธสงคราม” ให้หมดสิ้น ตามคำแถลงของ พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ ผู้เป็น “โฆษกประจำตำแหน่ง” ว่าเป็นนโยบาย “เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้สังคม ไม่ยอมให้กลุ่มคนที่เอาเปรียบและทำลายสังคม สามารถฟอกตัวอยู่เหนือกฎหมายได้”
⦁…ค่อยๆ เป็นเรื่องขึ้นมาเรื่อยๆ ล่าสุด “นักเคลื่อนไหวคนดัง-รสนา โตสิตระกูล” หยิบเอา “โครงการทางเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา หอชมเมืองรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีทอง” มาถล่ม “คสช.” ว่าทำเพื่อ “เอื้อผลประโยชน์ให้นายทุน” เมื่อเป็นธรรมดาว่า “จากเรื่องหนึ่งซึ่งสร้างความไม่วางใจเสียแล้วจะพัฒนาสู่อคติ” และหลังจากนั้น “ทุกเรื่องราวจะถูกตีความว่าเลวร้าย” ซึ่งเป็น “กระบวนพัฒนาการทางความคิดที่เห็นกันมาตลอด” นั่นหมายความว่านับแต่นี้ “เรื่องเล็กจะเป็นเรื่องใหญ่” และ “เรื่องใหญ่จะขยายเป็นเรื่องระดับสร้างหายนะ”
⦁…ในห้วงยามที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เทความหวังไปที่การท่องเที่ยว “ข่าวช่องตรวจคนเข้าเมือง” คับข้องติดขัด “เจ้าหน้าที่ไม่พอกับจำนวนคนใช้บริการ” สร้าง “โกลาหล” ให้ “สนามบิน” แรงถึงขั้น “เครื่องดีเลย์” กันระนาว สร้างความวิตกสาหัสให้ “ผู้โดยสารที่ต้องไปต่อเครื่องที่ประเทศอื่น” กลายเป็น “สนามบินประเทศไทยไม่มีความอุ่นใจให้ผู้ใช้บริการ” ปล่อยให้ “ชีวิตต้องอยู่กับความเสี่ยง” แบบ “คาดเดาไม่ได้ว่าจะพอรู้ชะตากรรมได้เมื่อไร” อย่าแปลกใจที่ “ศูนย์การบินของภูมิภาค” เป็น “ฝันค้าง” มาทุกยุคทุกสมัย
ชโลทร