ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ล้วนออกมาปฏิเสธ
การจอดำ”พีซทีวี” คนละเรื่องกับ”ยิ่งลักษณ์”
“ไม่เกี่ยว” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยัน “เป็นการทำผิดในหลักเกณฑ์ของกสทช.จะไปเกี่ยวอะไรกับวันที่ 25 สิงหาคม”
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ช่วย”ขยาย”ให้ชัดขึ้น
“ถามว่าควรปิดหรือไม่ ทุกอย่างทำตามกฎเกณฑ์ เจ้าหน้าที่สั่งปิดโดยประเมินจากการโจมตีรัฐบาล”
ทุกอย่างจึงล้วนไม่เกี่ยวกับ “25 สิงหาคม”
เป็นการปฏิบัติงานไปตามปกติ ไม่ว่า บก.ปอท. ไม่ว่า กกล.รส.ภาค 3 ไม่ว่า สตง.
ทุกอย่างจึงล้วนไม่เกี่ยวกับคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ถามว่าทำไม บก.ปอท.จึงมี “หมายเรียก” นายวัฒนา เมืองสุข ไปพบ “พนักงานสอบสวน”
คำตอบ คือ เพราะทำผิด มาตรา 14 พรบ.คอมพิวเตอร์
คำตอบ คือ เพราะทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
ไม่มีอะไรเกี่ยวกับ “คดีรับจำนำข้าว”
ถามว่าทำไมสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)จึงทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหมให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณของ”องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น”(อปท.)
ตอบว่า เพราะว่ามีการใช้งบประมาณ”ดูงาน”ผิดประเภท
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคดีโครงการรับจำนำข้าว ไม่เกี่ยวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
จึงมิได้เนื่องมาแต่ “25 สิงหาคม”
ไม่ว่าการขยับขับเคลื่อน “กสทช.” ไม่ว่าการขยับขับเคลื่อน ของ”กกล.รส.ภาค 3″ ไม่ว่าการขยับขับเคลื่อนของ”สตง.”
ล้วนดำเนินไปอย่าง “เอกเทศ”
เพราะ “กสทช.ก็มุ่งแต่เรื่องควบคุม”โทรทัศน์”
เพราะ”กกล.รส.ภาค 3″ สนใจเฉพาะผู้ประกอบการ”รถตู้”
เพราะ”สตง.” ก็เป็นเรื่องของ”งบประมาณ”
แต่จะทำให้ “แผนกรกฎ 52″ ประสบความสำเร็จอย่างเรียบร้อยราบรื่นหรือไม่ ต้องดูจาก”25 สิงหาคม”