ยิ่งผ่านไปนานวัน กรณีออก”หมายเรียก” พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ยิ่งจะพัฒนาและกลายเป็นหมายเรียกอย่าง”พิเศษ”
พิเศษเพราะ”เสก”เรื่องเล็ก-เล็กให้กลายเป็น “เรื่องใหญ่”
พิเศษเพราะ”เนรมิต”เรื่องที่แทบไม่มีอะไรสลับซับซ้อน ให้กลายเป็นเรื่องอันมากด้วย “เงื่อนงำ”
เงื่อนงำ 1 เพราะมี “พล.อ.” 1 เข้ามาเกี่ยวข้อง
หากไปศึกษาข้อ”โต้แย้ง”ของ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ก็จะค่อยๆ ประจักษ์
ต้องยอมรับว่าจุดเริ่มต้นมาจาก “แชตไลน์”
แม้มิได้มีการเปิด “รายละเอียด” ของข้อความซึ่ง พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ส่งไปในหมู่เพื่อนมิตรว่าเป็นอย่างไร
แต่”ทนาย”ก็จำแนกแยกแยะออกมา
ว่ามีข้อความสำคัญ 3 ส่วนคือ ข้อความ 1 ว่า “พล.อ.” ข้อความ 1 คือ “การซื้อขายตำแหน่ง” ข้อความ 1 คือ “ในสตช.”
หมัดแรกของ “ทนาย” คือ
“ข้อความนี้ไม่สามารถยืนยันได้ว่า พล.อ.เป็นใคร”
“ข้อความก็ไม่ได้มีการระบุ สตช.มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่ง หรือไปเกี่ยวข้องกับ พล.อ.อย่างไร”
“การรับข้อกล่าวหาทำได้ แต่การจะตั้งข้อกล่าวหา หรือทำให้ใครตกเป็นผู้ต้องหา
จะต้องพิสูจน์ให้ได้ความก่อนว่า พล.อ.ที่มีการกล่าวหาเป็นใคร และสตช.เกี่ยวข้องอย่างไร”
เป็นการแก้ต่างให้ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป แน่นอน
เป็นการแก้ต่างอันสะท้อนว่า “ทนายความ”อันประกอบส่วนจาก นายอุดม เฟื่องฟุ้ง และ นายนิติธร ล้ำเหลือ
“ไม่ธรรมดา” อย่างยิ่ง
ยิ่งกว่านั้น ยังสะท้อนด้วยว่า แม้ข้อกล่าวหาอันมีต่อ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป
มากด้วยความร้อนแรง ตามที่ปรากฏผ่าน”หมายเรียก” แต่ก็มิได้หมายความว่าจะส่งผลให้
พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ต้องอยู่ในภาวะ
“งอก่อ งอขิง” ไปตามความต้องการ
มีความจำเป็นต้อง “ย้อนกลับ” ไปพิจารณา “อุบัติการณ์”แห่งการออก “หมายเรียก” ต่อ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อย่างเป็นพิเศษ
หาก “แชตไลน์” เป็นเหมือน “สายล่อฟ้า”
ต้องยอมรับว่า ข้อความอันพาดพิงไปยัง “พล.อ.”มากด้วยความละเอียดอ่อนและสร้างภาวะอ่อนไหวในทางความรู้สึก
เป็นเหมือนกับ “อิฐล่อหยก”
ตัวของ “อิฐ” นั้นสร้างมาจากดิน ไร้ค่า ไร้ความหมายอย่างแน่นอน แต่ “หยก”นั้นดำรงอยู่อย่างเป็นพิเศษ
มี “ค่า” มากด้วย “ความหมาย”
พลันที่เกิดการกดดันและเรียกร้องให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ออกแอ็คชั่นในเรื่องนี้
นามของ “พล.อ.” จึงอยู่ในแสงแห่ง “สปอตไลต์”
ถามกันให้ตรึมว่าเป็นใคร มีความสำคัญอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แน่นอน ไม่มีใครกล้าระบุ “นาม” ออกมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป มากด้วยความระมัดระวัง มากด้วยความสุขุม รอบคอบ
ยิ่ง “ทนายความ” ยิ่งระวังปาก ระวังคำ
แต่แปลกอย่างประหลาดยิ่งที่ในแวดวง “โซเชียลมีเดีย”รับรู้ว่า “พล.อ.”ผู้นั้นเป็นใครและสำคัญอย่างไร
เพราะหากไม่สำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติคงไม่ “เต้น”
เพราะหากไม่มี “ความหมาย” ทางด้าน พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป คงไม่มีการจัดทีมรับแข็งแกร่งระดับนี้
ตกลง “พล.อ.”เป็นใคร
