“บิ๊กตู่” เมิน 2 พรรคใหญ่คว่ำร่าง รธน. บอกให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจดีกว่า มั่นใจรัฐบาลไม่เคยทุจริต จึงไม่หวั่นข้อเสนอไม่นิรโทษกรรมผู้ทุจริต ถามนักการเมืองที่ออกมาแสดงความเห็น ยอมรับกฎหมายบ้างหรือไม่
เมื่อเวลา 14.25 น. วันที่ 19 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีหลายพรรคการเมืองออกมาระบุว่าไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องนี้ต้องถามประชาชนด้วย นักการเมืองก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคนในชาติ ถ้าพูดถึงสัดส่วนก็ไม่มาก ดังนั้นในเมื่ออาสาสมัครเข้ามาเป็นผู้แทนของประชาชนในการบริหารราชการแผ่นดิน ก็ต้องมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ หรือมีความคิดในการแก้ปัญหา ที่เขามีส่วนร่วมทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างไร ซึ่งไม่ใช่อยู่ดีๆ ตนจะไปทำร้ายนักการเมืองเหล่านี้ แต่เพราะมันมีเรื่อง เพราะฉะนั้นทำอย่างไร เขาจึงจะอาสาเข้ามาจะต้องไม่มีเรื่อง ทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เขาก็กลัวจะมีเรื่อง ประชาชนส่วนใหญ่ก็อยากให้มีมาตรการ แล้วนักการเมืองจะไม่ฟังคนอื่นหรืออย่างไร จะเอาแต่การเมืองอย่างเดียวเลยหรือ แล้วประเทศจะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไร รวมทั้งการปฏิรูปต่างๆ “ไอ้ที่ออกมาติติงผมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทุจริตเรื่องยาง หรือเรื่องต่างๆ เขาก็มีมาตรการที่คิดกันไว้หมดแล้ว ไม่ใช่สั่งแต่โครมๆ อย่างเดียว”
เมื่อถามว่า การให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยผ่าทางตันทางการเมืองหากเกิดวิกฤต พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของ กรธ.เขาคิดมา ซึ่งที่ผ่านมาก็มีกลไกอยู่แล้ว ทั้ง ส.ว.ต่างๆ แต่ไม่สามารถขจัดความขัดแย้งได้ ก็เลยหาวิธีการว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่ใช่ว่ามันผิดหรือถูก ทุกเรื่องต้องไปดูที่ประเด็นของปัญหาว่าปัญหามันเกิดขึ้นจากอะไร ความขัดแย้งทางกฎหมายใช่หรือไม่ เอากฎหมายมาขัดแย้งกันหรือเปล่า กระบวนการยุติธรรมไม่ได้รับความเชื่อถือใช่หรือไม่ ก็ต้องมาแก้ทั้งหมด ถ้าไม่มีเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องมาแก้ เพราะมีกลไกของมันอยู่แล้ว แต่มาตรการในช่วงการปฏิรูปจำเป็นหรือเปล่า และที่ผ่านมาใครเป็นผู้ขจัดความขัดแย้ง ทุกคนต่างก็ไม่เชื่อฟังกันทั้งหมด ส.ว.ก็ทำหน้าที่ไม่ได้ จนนำไปสู่เรื่อง ส.ว.ที่มาจากพรรคการเมืองด้วย จึงมีการไปแก้ว่า ส.ว.ไม่ต้องมาจากพรรคการเมืองได้หรือไม่ เพื่อจะได้ทำหน้าที่ของ ส.ว.อย่างแท้จริง ไม่ใช่มาจากการเมืองทั้ง 2 ฝั่ง ถ้าเรามองอย่างนี้จะทำให้รู้ว่าเรากำลังแก้ปัญหา แต่ถ้ามองแบบเดิม ยึดประชาธิปไตยอย่างเดียว ถามว่ามันไปได้หรือไม่ วันนี้ทุกคนต้องร่วมคิด ตนไม่อยากพูดว่าอะไรผิด ถูก จะต้องระมัดระวัง
เมื่อถามว่า ข้อเสนอที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ระบุว่าจะนิรโทษกรรมให้การกระทำที่ถูกต้องของ คสช. แต่ไม่นิรโทษให้ผู้ที่กระทำการทุจริต พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “แล้วทำทุจริตแล้วหรือยัง ถ้าทุจริตก็โอเค ก็แล้วแต่ เพราะผมไม่มีเจตนาที่จะทำอะไรทุจริตสักอย่าง และเชื่อมั่นว่าวันนี้รัฐบาลก็ยังไม่ได้ทุจริตอะไร นโยบายของรัฐบาลมีความรอบคอบ การปฏิบัติต่างๆ ก็รอบคอบตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ แต่ถ้ารัฐบาลกำหนดอะไรไว้ดูเหมือนดี แต่ไม่ไปตามหรือไปไล่ล่าก็เป็นอีกเรื่อง วันนี้รัฐบาลได้ทำทุกอย่างแล้ว แต่รับประกันไม่ได้ว่าเพราะมันมีหลายชั้น แต่เมื่อมีมาตรการแล้วก็เชื่อว่าศาลจะรับฟัง”
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าไม่กังวลกับข้อเสนอดังกล่าวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่กังวล แต่ถ้าทำผิดก็ต้องรับผิดเป็นเรื่องธรรมดา แต่ตนก็ยังเชื่อมั่นว่ายังไม่ได้ทำอะไรผิด แต่อย่าไปพูดไว้ก่อนว่าไอ้นั่น ไอ้นี่ผิด ที่ตนพูดทุกวันนี้เพราะมีศาลอยู่แล้ว ความผิดที่ผ่านมา มีหน่วยงานไปตรวจสอบการทุจริตหรือเปล่า
เมื่อถามว่า นายกฯมีความคิดอย่างไรต่อภาพรวมของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในส่วนการเป็นนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีความคิดเห็น เพราะยังถือว่ายังไม่ใช่ขั้นตอนของนายกฯ แต่ตนมีความคิดเห็นในฐานะของประชาชน ก็อาจมีความคิดของตัวเองบ้าง ถ้าถามในแง่ความคิดเห็นของประชาชนก็จะฝากบอกไป
เมื่อถามย้ำอีกว่า แต่ตัวแทนพรรคการเมืองประกาศว่าจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับบนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “พรรคการเมืองเป็นใคร ถ้าเขาจะเข้ามาสู่การเมืองในอนาคตอันใกล้นี้เขาจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเองหรือไม่ วันนี้แค่บางคนทำผิดกฎหมายชัดเจนยังไม่ยอมรับเลย ผมถามว่าจะยอมให้เขาเข้ามาอีกหรือเปล่า อย่ามาถามผมเพราะผมเป็นผู้แก้ไข กำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อเดินหน้าให้กับคนอีก 70 ล้านคน ไม่ใช่เดินหน้าให้กับนักการเมือง และผมก็ไม่ใช่ศัตรูกับเขา ผมเข้ามาเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้เขาด้วยซ้ำ สิ่งที่ร่างรัฐธรรมนูญมา ถ้ามันดี รับเสียบ้าง ไม่ใช่ออกมาตีทุกวัน จะกลับไปที่เก่าทั้งหมดแล้วพวกคุณจะไว้ใจให้คนแบบนี้เข้ามาบริหารต่อไปก็เป็นเรื่องของพวกท่าน ผมไม่เกี่ยว
เมื่อถามย้ำว่า พรรคการเมืองยังคงระแวงในเรื่องการเลือกตั้ง ที่มาของ ส.ว. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า แล้วสื่อระแวงกันเรื่องอะไร อยากถามว่าแล้วพรรคการเมืองที่ผ่านมาโปร่งใสเป็นธรรม สร้างความเข้มแข็งให้ประเทศบ้างหรือไม่ ต้องไปหาคำตอบกันมา ตนไม่ได้ไปกล่าวหาใคร สื่อต้องใช้กระบวนการตรวจสอบ สื่อถือเป็นกระบวนการตรวจสอบของรัฐจะตรวจสอบด้วยหลักการ เหตุผลและกฎหมาย อย่าไปตรวจสอบกันด้วยความรู้สึก แค่นี้ก็ไม่ทะเลาะกันแล้ว ผมก็ไม่ถูกใครเกลียด และผมก็ไม่ต้องไปเกลียดใคร กฎหมายว่าอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น วันนี้ไม่มีนักการเมือง อยู่ที่บ้านจะมีก็มีไป อยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป
เมื่อถามว่า แสดงว่าวันนี้นักการเมืองจะกระตุกแขน กระตุกขานายกรัฐมนตรีก็ไม่เป็นไร ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็เขาไม่ได้มากระตุกผม ถ้าเข้ามาใกล้ผม รปภ.ก็เข้ามาเล่นงานเขาอยู่แล้ว เขาก็เลยต้องกระตุกผ่านสื่อ ผมก็พยายามไม่หงุดหงิด เห็นหรือไม่ว่า 2 วันที่ผ่านมานี้อารมณ์ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า 2 พรรคการเมืองใหญ่แสดงชัดเจนว่าจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ แล้วเมื่อไหร่นายกรัฐมนตรีจะดึงแผนสำรองที่คิดไว้ออกมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พรรคการเมืองเหล่านี้มีคนกี่คน ให้ประชาชนเขาเป็นคนตัดสินดีกว่า อย่าให้ 2 พรรคนี้เป็นคนตัดสินเลย
