หากดูจากกรณีที่ นายวัฒนา เมืองสุข ถูกดำเนินคดี ประสานเข้ากับ”โน้ต”ที่ฝ่ายความมั่นคงส่งให้ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ก่อนอภิปรายที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ประเด็นการชวนคนไปหน้าศาลฎีกาฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ในวันที่ 25 สิงหาคม มีความอ่อนไหว
ดังคำยืนยันจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
“แกนนำที่ใช้โซเชียล มีเดีย ปลุกระดมมวลชนมีเพียงคนเดียว คือ นายวัฒนา เมืองสุข”
ดังคำกล่าวก่อนอภิปรายของ นายสมบัติ บุญงามอนงค์
“ทหารได้โน้ตมาเตือนว่า พิธีกรในงานเสวนานี้กรุณาอย่าเชิญคนที่มาฟังเสวนาไปให้กำลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ศาล”
คำถามก็คือ หากทำเช่นนั้นจะมี“ความผิด“อะไร
คำตอบของคำถามนี้ต้องศึกษาจากกรณีของ นายวัฒนา เมืองสุข มาเป็น “บรรทัดฐาน”
คดีของเขาเริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม
เบื้องต้นคือ ความผิดตามมาตรา 14 พรบ.คอมพิวเตอร์ จากนั้นก็นำไปสู่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
นั่นก็คือ
“กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต
เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมาย แผ่นดินหรือรัฐบาล
โดยใช้กำลังข่มขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน”
น่ากลัวอย่างยิ่ง น่ากลัวอย่างมาก
หากไปดู “ข้อความ” ของ นายวัฒนา เมืองสุข อันกลายเป็นปัญหาจากพรบ.คอมพิวเตอร์กระทั่งมาตรา 116
นั่นก็คือ
“ในวันที่ 1 สิงหาคม ผมจะไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ศาล และวันที่ 25 สิงหาคม ผมจะไปให้กำลังใจเช่นกัน”
การไปให้“กำลังใจ“นั่นแหละเป็น“ประเด็น“ต่อ“มาตรา 116″