ซัด เผด็จการยิ่งกว่ายุคไหนๆ รัฐเหมารวมนักการเมืองมีอิทธิพลความคิดเป็นมาเฟีย

“สามารถ” ชี้ นิยามผิดเพี้ยนเหมานักการเมืองเป็นผู้มีอิทธิพล ชี้ หากมีวิสัยทัศน์แบบนี้คงหมดหวังปมสร้างความปรองดอง

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า กรณีที่รัฐบาลจะเดินหน้าปราบผู้มีอิทธิพลนั้น ตนเห็นคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของเลขาธิการสมช.แล้ว เห็นว่าได้นิยามคำว่าผู้มีอิทธิพลขึ้นใหม่แล้ว ซึ่งเล็งไปที่นักการเมืองโดยบอกว่าผู้มีอิทธิพลคือนักการเมืองเนื่องจากเป็นผู้มีอิทธิพลต่อความคิดของประชาชนในพื้นที่ เมื่อเลขาฯสมช. พูดอย่างนี้ แน่นอนว่าคงทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะดูแลตรวจสอบผู้มีอิทธิพลผิดเพี้ยนไป เพราะแค่นักการเมืองที่มีความเห็นต่างไปจากอำนาจรัฐ ก็ถือเป็นผู้มีอิทธิพลไปแล้ว ซึ่งไม่ถูกต้อง อย่างนี้ยิ่งกว่าเผด็จการยุคไหนๆเสียอีก ต่อไปอาจลามไปถึงนักวิชาการที่มีความเห็นต่างกับรัฐบาล ก็จะถูกเหมารวมเป็นผู้มีอิทธิพลไปด้วย

“หากคนที่มีความคิด มีวิสัยทัศน์อย่างนี้ อยู่ในอำนาจทางการเมือง เป็นผู้มีอำนาจในรัฐบาล โอกาสจะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น คงห่างออกไปทุกทีๆ คงจะเกิดลำบาก กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ผู้มีอำนาจมีอคติทางการเมือง ก็เป็นเรื่องตลกดี ที่ใครเห็นต่างกับรัฐกลายเป็นผู้มีอิทธิพลหมด” นายสามารถ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image