กัมพูชาชี้ “ปู” หลบหนีผ่านเขมรแค่ “ข่าวลือ” ปัดออกพาสปอร์ตให้เบิกทางไปดูไบ

เมื่อวันที่ 28 กันยายน เว็บไซต์ของพนมเปญโพสต์ สื่อสิ่งพิมพ์กัมพูชา รายงานการปฏิเสธข่าวของเจ้าหน้าที่ทางการกัมพูชากรณีที่มีรายงานข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและจำเลยในคดีรับจำนำข้าว ใช้ดินแดนกัมพูชาเป็นเส้นทางในการหลบหนีและยังได้รับการช่วยเหลือให้ได้รับพาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางกัมพูชา เพื่อใช้ในการเดินทางต่อไปยังประเทศสิงคโปร์เพื่อขึ้นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปพร้อมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นพี่ชาย ไปยังนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อันเป็นสถานที่พำนักหลักของนายทักษิณนับตั้งแต่หลบหนีออกจากประเทศไทยไป โดยเจ้าหน้าที่ทางการกัมพูชาระบุว่า “ไม่มีบันทึกข้อมูล” ว่ามีความเคลื่อนไหวดังกล่าว และว่า รายงานข่าวดังกล่าวเป็น “ข่าวลือ”

พนมเปญโพสต์รายงานว่า หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มาขึ้นศาลตามนัดหมาย เจ้าหน้าที่ประจำด่านชายแดนหลายรายกล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจเดินทางออกจากประเทศไทยโดยทางทะเล โดยอาจขึ้นเรือสปีดโบ๊ตจากจังหวัดระยองไปยังเกาะช้าง เกาะกูด หรือเกาะเลายา ในจังหวัดตราด ก่อนเข้ามายังกัมพูชา สื่อไทยยังอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับการช่วยเหลือให้ได้ถือพาสปอร์ตของกัมพูชา เพื่อที่จะเดินทางไปยังสิงคโปร์ เพื่อขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปยังนครดูไบด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทางการกัมพูชาปฏิเสธในรายงานข่าวต่างๆ เหล่านี้ โดยนายชัย บูนา เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองของกัมพูชา กล่าวว่า ข่าวนี้เป็น “ข่าวลือ และไม่เป็นความจริง ” และว่า “หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ข้ามแดนมาจริง คนอื่นๆ ก็จะต้องเห็น แต่ไม่มีใครเห็นเธอ” พร้อมกับตำหนิสื่อว่า “ไม่มีความเป็นมืออาชีพ” จากการที่ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากฝ่ายเจ้าหน้าที่กัมพูชา “พวกเขาแค่วิเคราะห์เอาเอง” นายชัย บูนา กล่าว

ขณะที่นายสก โสภณ รองหัวหน้ากองการหนังสือเดินทางของกัมพูชา กล่าวยืนยันว่า หน่วยงานของตนจะออกหนังสือเดินทางให้เฉพาะพลเมืองชาวกัมพูชาเท่านั้น “น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนไทย ไม่ใช่คนกัมพูชา ฉะนั้นผมไม่ออกหนังสือเดินทางให้กับชาวต่างชาติ” อย่างไรก็ดี นายโสภณกล่าวว่าตนจะทำการสอบสวนรายงานกล่าวอ้างที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับการช่วยเหลือให้ได้รับหนังสือเดินทางกัมพูชาหรือไม่เมื่อมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้เท่านั้น

ด้าน พล.ท.เขม สาริน โฆษกกองการตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงมหาดไทยกัมพูชา กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานในระบบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางจากประเทศกัมพูชาไปยังสิงคโปร์ หรือมีการออกหนังสือเดินทางกัมพูชาให้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ “ขณะนี้เรายังไม่มีรายงานหรือบันทึกใดๆ เราไม่มีบันทึกข้อมูลว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกจากกัมพูชาไปยังสิงคโปร์” พล.ท.เขม สาริน บอกอีกว่าเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของตนยังไม่มีการติดต่อใดๆ กับเจ้าหน้าที่ทางการไทยด้วย

Advertisement

ส่วนนายเข็ก โนรินดา โฆษกการท่าอากาศยานกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ และไม่ตอบคำถามที่เฉพาะเจาะจงของพนมเปญโพสต์ โดยพนมเปญโพสต์ยังระบุว่ายังไม่สามารถติดต่อกับนายเขียว โสเพียก โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชาเพื่อซักถามในเรื่องนี้ได้

พนมเปญโพสต์ยังให้ข้อมูลว่า เป็นที่รับรู้ว่าสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีสัมพันธ์สนิทสนมเป็นอย่างดีกับนายทักษิณ โดยสมเด็จฯฮุน เซน ยังเคยเสนอที่พำนักในกัมพูชาให้แก่นายทักษิณช่วง 3 ปีให้หลังจากที่นายทักษิณถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีทุจริต และในปีเดียวกันนั้นรัฐบาลฮุน เซน ยังประกาศจะไม่ส่งตัวนายทักษิณในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน โดยสมเด็จฯฮุน เซน บอกกับผู้สื่อข่าวในช่วงเวลานั้นว่าเขาจะตั้งนายทักษิณเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของตนเอง อย่างไรก็ดี ครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังมีความสนิทสนมกับนักการเมืองกัมพูชาหลายคนเช่นกัน โดยในปี 2556 ลูกสาวของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวอีกคนของนายทักษิณ ได้แต่งงานกับลูกชายของนายเลียง นัม ส.ส.กัมพูชา ที่เป็นคนใกล้ชิดของสมเด็จฯฮุน เซน ด้วย ซึ่งพนมเปญโพสต์ระบุว่ายังไม่สามารถสอบถามความเห็นในกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์จาก ส.ส.กัมพูชารายนี้ได้

ขณะที่วันก่อนหน้าสื่อกัมพูชารายงานอ้างสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาปฏิเสธว่าอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยไม่ได้ใช้กัมพูชาเป็นช่องทางในการหลบหนี “ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ใช้กัมพูชาเพื่อหลบหนี: ฮุน เซน” เป็นข้อความที่นายเขียว กันนะริด รัฐมนตรีข่าวสารกัมพูชาโพสต์ชี้แจงผ่านบัญชีเฟซบุ๊กของตนเอง ที่อ้างว่าสมเด็จฯฮุน เซน กล่าวปฏิเสธถึงเรื่องนี้ในระหว่างพบปะประจำสัปดาห์กับคนงานในโรงงานเสื้อผ้าจำนวน 4,400 คน ที่เกาะเพชรเธียเตอร์ ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image